TARADTHONG.COM

สมาชิก VIP => General Discussion => ข้อความที่เริ่มโดย: น่ารักสุดๆ ที่ พฤษภาคม 27, 2010, 10:29:03 PM



หัวข้อ: ต้นเหตุ-วิธีแก้...กลิ่นตุ ๆ ในหน้าฝน
เริ่มหัวข้อโดย: น่ารักสุดๆ ที่ พฤษภาคม 27, 2010, 10:29:03 PM
ต้นเหตุ-วิธีแก้...กลิ่นตุ ๆ ในหน้าฝน
Take a Deep Breath "กลิ่นเหม็น" ไม่ใช่ประเด็นของหน้าฝน (Slim Up)

           เข้าหน้าฝนกันแบบเต็ม ๆ ทุกหยดหยาดเลยนะคะ สำหรับเดือนนี้ และแน่นอนว่าเรายังมีเคล็ดลับทำสวยแบบมั่นใจในวันเปียก ๆ มาฝากอีกตามเคย คราวนี้ว่ากัน ด้วยเรื่อง "กลิ่น" ค่ะ แค่พูดถึงก็อดไม่ได้ใช่ไหมที่จะทำจมูกฟุตฟิตพิสูจน์สักหน่อยว่า จะมีใครที่ไหนส่งกลิ่นมาทำลายบรรยากาศดี ๆ หรือเปล่า แต่อย่าเพิ่งไปโทษใครให้ผิดใจกันเลยค่ะ ลองสำรวจตัวคุณเองก่อนดีกว่าว่า เป็นสาเหตุของกลิ่นตุ ๆ ในหน้าฝนนี้เสียเองหรือเปล่า

  1. กลิ่นอับ

           ประเดิมกลิ่นแรกกันด้วยกลิ่นอับของเสื้อผ้า มันออกจะน่าหงุดหงิดใช่ไหมคะ ผ้าชื้น ๆ ไม่แห้งก็เซ็งจะแย่อยู่แล้ว แล้วยังจะมีกลิ่นเหม็นอับตามมาแจมอีก และถ้าจำเป็นจริง ๆ ที่ต้องใส่เสื้อผ้าตัวนั้นด้วย ก็คงปวดประสาทรับกลิ่นกันทั้งคนใส่ทั้งคนที่อยู่ข้าง ๆ แน่ ๆ

           วิธีกำจัดกลิ่นอับอย่างเด็ดขาดคือการแกว่งสารส้มในน้ำที่จะใช้ซักผ้าประมาณ 10 นาที แล้วซักได้ตามปกติ รวมถึงการใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มที่มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ เพราะน้ำยาปรับผ้านุ่มกลิ่นหอมแรงจะเป็นตัวกระตุ้นให้กลิ่นผ้าที่เหม็นอับ อยู่แล้ว ยิ่งส่งกลิ่นเพี้ยนไปกันใหญ่ ที่สำคัญที่สุดคือ คุณต้องกะเวลาในการซักผ้าให้ดี ถ้าเช้าวันไหนแดดดีก็รีบซักตากโดยไว เมื่อผ้าแห้งก็รีบเก็บทันที อย่ามัวตากอวดเพื่อนบ้านอยู่นะคะ ไม่อย่างนั้นคุณจะเสียเวลาในการซักผ้าเสียเปล่า ๆ แถมยังจะเพิ่มกลิ่นอับให้เสื้อผ้าแบบไม่ตั้งใจ

 2. กลิ่นเปรี้ยว

           กลิ่นต่อมาคือ บรรดากลิ่นเปรี้ยว กลิ่นเต่าทั้งหลาย หน้าฝนแบบนี้ล่ะตัวดี เพราะไม่ใช่แค่อากาศร้อนอบอ้าว ทั้งก่อนและหลังฝนตกเท่านั้น แต่ยังมีความชื้นเข้ามาเร่งความเหม็นอับเข้าไปอีก เต่าใครดุไม่ดุก็ดูกันที่หน้าฝนนี่แหละ

           วิธีแก้ง่าย ๆ คือ การใช้สบู่ที่ผสมสารป้องกันเชื้อแบคทีเรียทำความสะอาดบริเวณรักแร้หรือ ข้อพับต่าง ๆ หรือใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดขัดบริเวณดังกล่าว เพื่อเป็นการขจัดสิ่งสกปรกและลอกเซลล์ผิวเก่าออก ซึ่งหากยังปล่อยเซลล์เหล่านี้ไว้ มันจะกลายเป็นอาหารของแบคทีเรีย ซึ่งจะส่งกลิ่นรุนแรงจนขายหน้า

   3. กลิ่นเท้า

           ถัดมาก็ลงไปที่เท้าค่ะ แค่พูดถึงหลาย ๆ คนก็ต้องผงะเพราะเคยสัมผัสกับฤทธิ์ของกลิ่นมันมาแล้วจนไม่อยากที่จะโชคร้าย ไปเจออีก กลิ่นเท้าเกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่คอยกินสิ่งสกปรกตามเท้าและส่งกลิ่นออกมา เช่นเดียวกับรักแร้ และในหน้าฝนแบบนี้ น้ำฝนที่เปียกรองเท้าทำให้เท้าอับชื้นจะยิ่งเป็นตัวกระจายเชื้อแบคทีเรียให้ ไปเกาะอยู่ตามส่วนต่าง ๆ ของเท้าและรองเท้าได้มากขึ้นด้วย

           วิธีแก้ไขคือการทำความสะอาดเท้าอย่างพิถีพิถันทุกซอกเล็บด้วยสบู่ป้องกันเชื้อแบคทีเรีย และอาจเพิ่มวิธีฆ่าเชื้อโรคอย่างง่าย ๆ ด้วยการผสมน้ำมะนาว 3-4 ช้อนโต๊ะ ลงในน้ำอุ่นหนึ่งกะละมังใช้แช่เท้า ซึ่งนอกจากจะช่วยฆ่าเชื้อขจัดกลิ่นแล้ว ยังเป็นการบำรุงเล็บให้แข็งแรงด้วย และหลังจากดูแลเท้าแล้วก็ต้องมาดูแลรองเท้าด้วยการนำออกผึ่งแดดให้แห้งเสมอ เพื่อเป็นการฆ่าเชื้อโรค และระบายอากาศ หรือถ้าจะให้ดีก็ขยันซักรองเท้าบ่อย ๆ เท่าที่จะทำได้ และไม่ควรใส่รองเท้าคู่เดิมซ้ำกันหลาย ๆ วัน ต้องมีเวลาพักให้รองเท้าได้หายใจระบายอากาศออกไปบ้างเพื่อลดความอับชื้น

ของดับกลิ่นติดกระเป๋า (หอม)

           - น้ำหอมขวดเล็กๆ ที่สามารถหยิบขึ้นมาฉีดได้ทันที
           - โรลออนกลิ่นดอกไม้ธรรมชาติ
           - สเปรย์ดับกลิ่นเท้ากลิ่นเมนทอล
           - ถุงใส่เครื่องหอมหรือดอกไม้หอมอบแห้งใบเล็ก ๆ พกติดกระเป๋า

  4. กลิ่นกระเป๋า

           กลิ่นสุดท้ายที่จะแนะนำให้แก้ไขกันโดยด่วนคือกลิ่นกระเป๋า ถึงจะไม่ใช่อวัยวะในร่างกาย แต่ก็หนีบอยู่ใกล้ ๆ ตัวตลอดเวลา ช่วงฝนไม่ตกก็ไม่ค่อยมีใครได้กลิ่นหรอกค่ะ แต่ถ้าฝนตกเมื่อไหร่กลิ่นกระเป๋าจะออกมาหลอนทันที ทั้งกระเป๋าหนัง กระเป๋าผ้า ส่งกลิ่นแรงไม่แพ้กัน สาเหตุก็เนื่องมาจากข้าวของในกระเป๋าที่หลายคนมักจะใส่อัด ๆ เข้าไปแบบไม่ยั้งคิด หรือแม้แต่การวางกระเป๋าบนพื้นที่ไม่สะอาด แขวนไว้ในที่ที่มีกลิ่นหรือมีฝุ่นละอองมาก สิ่งสกปรกเหล่านั้นจะเกาะติดอยู่ที่ทั้งนอกและในกระเป๋า และเมื่อไหร่ที่กระเป๋าเปียกขึ้นก็จะส่งกลิ่นที่สะสมไว้ออกมาฆ่าทุกคนที่ อยู่รอบๆ ให้ตายได้ไม่ยาก

           วิธีดับกลิ่นกระเป๋าง่าย ๆ และตรงจุดที่สุดคือการทำความสะอาดค่ะ ถ้าเป็นกระเป๋าหนังก็ให้ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเครื่องหนังโดยเฉพาะ และผึ่งให้แห้งด้วยลมธรรมดา แต่หากเป็นกระเป๋าผ้าหรือกระเป๋าที่สามารถซักได้ ก็ให้ซักโดยแช่ในน้ำอุ่นก่อน จากนั้นก็ให้ซักในน้ำสบู่อ่อนๆ แต่อย่าขยี้มากเพราะกระเป๋าอาจเสียรูปทรงได้ จากนั้นให้ล้างในน้ำเปล่าผึ่งลมหรือแดดให้แห้ง และครั้งต่อที่ใช้กระเป๋าก็ให้ระวังการใส่ของเยอะๆ ในกระเป๋า โดยเฉพาะของที่อาจมีกลิ่นตกค้าง หรืออย่าวางกระเป๋าในที่ที่มีกลิ่นมาติดกระเป๋าเราได้

           แค่ตัวเปียกหน้าฝนก็พอทนได้ แต่กลิ่นที่มาพ้อมกันหน้าฝนนี่สิคะ ทำใจลำบากจริง ๆ ฉะนั้น สาว ๆ อย่างเราอย่าปล่อยให้ฝนมาทำลายความมั่นใจนะคะ กันไว้ดีกว่าแท้ เพราะถ้าแย่แล้วชี้แหงแน่ ๆ ล่ะค่ะ