TARADTHONG.COM
เมษายน 25, 2024, 04:29:49 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: ตลาดทองดอทคอม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  

Copy Code


หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ดาวโจนส์ปิดบวก 45.19 จุด ขณะนักลงทุนจับตาการประชุม FED  (อ่าน 5015 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
น่ารักสุดๆ
Administrator
Hero Member
*****

คะแนนความนิยม: 2330
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1658



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: สิงหาคม 10, 2010, 12:15:51 PM »

ข่าว เศรษฐกิจ การเงิน
08/10/2010
ดาวโจนส์ปิดบวก 45.19 จุด ขณะนักลงทุนจับตาการประชุม FED
ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (9 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ รวมถึงการใช้นโยบายผ่อนปรนด้านการเงินเพิ่มเติม ในการประชุมเฟดซึ่งจะมีขึ้นในคืนวันอังคารที่ 10 ส.ค.ตามเวลาประเทศไทย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดบวก 45.19 จุด หรือ 0.42% แตะที่ 10,698.75 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดบวก 6.15 จุดหรือ 0.55% แตะที่ 1,127.79 จุด และดัชนี Nasdaq ปิดบวก 17.22 จุด หรือ 0.75% แตะที่ 2,305.69 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 3.3 พันล้านหุ้น ลดลงเมื่อเทียบกับวันศุกร์ที่ 6 ส.ค.ที่ 3.9 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 3 ต่อ 1

นักลงทุนจับตาการประชุมเฟดซึ่งจะมีขึ้นในวันอังคารที่ 10 ส.ค.นี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าเฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น (fed fund rate) ไว้ที่ 0 - 0.25% และอาจจะใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนปรนเพิ่มเติม หลังจากรายงาน Beige Book หรือรายงานสำรวจภาวะเศรษฐกิจจากเฟดทั้ง 12 เขตในสหรัฐครั้งล่าสุดบ่งชี้ว่า อัตราการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในหลายภูมิภาคเป็นไปอย่างล่าช้า

เบน เบอรนันเก้ ประธานเฟดได้แสดงความเชื่อมั่นว่า การปรับตัวขึ้นของอัตราค่าแรงจะช่วยกระตุ้นตัวเลขการใช้จ่ายภาคครัวเรือนให้ ฟื้นตัวขึ้นในอีก 2 - 3 ไตรมาสข้างหน้า โดยเบอร์นันเก้คาดว่า ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคจะดีดตัวขึ้นในอีกไม่กี่ไตรมาสข้างหน้านี้ เพราะได้แรงหนุนจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นและการฟื้นตัวของภาวะสินเชื่อ นอกจากนี้ เบอร์นันเก้คาดว่า อัตราการลงทุนในภาคธุรกิจจะยังคงขยายตัวแม้เศรษฐกิจยังเผชิญกับภาวะการฟื้น ตัวที่เปราะบาง

นอกเหนือจากการประชุมเฟดแล้ว นักลงทุนยังจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันอังคาร เฟดจะเปิดเผยข้อมูลประสิทธิภาพการผลิตและต้นทุนแรงงานต่อหน่วยประจำไตรมาส 2/2553 กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลสต็อกสินค้าภาคค้าส่งเดือนมิ.ย. วันพุธ กระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนมิ.ย. และกระทรวงการคลังสหรัฐจะเปิดเผยงบประมาณของรัฐบาลกลางเดือนก.ค.

ส่วนวันพฤหัสบดี กระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และวันศุกร์ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนก.ค. ขณะที่กระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยยอดค้าปลีกเดือนก.ค. นอกจากนี้ สหรัฐจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นขั้นต้นเดือนส.ค.

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้แรงหนุนจากข้อมูลที่บ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของ เศรษฐกิจยุโรป โดยเมื่อวานนี้ สำนักงานสถิติเยอรมนีเปิดเผยว่า ยอดส่งออกเดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 3.8% ซึ่งเป็นสถิติที่ขยายตัวเร็วกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกช่วยหนุนเศรษฐกิจเยอรมนีที่ต้องพึ่งพาการ ส่งออกนั้น ให้ขยายตัวเร็วขึ้น

หุ้นฮิวเล็ต-แพคการ์ด (เอชพี) ปิดร่วง 8% หลังจากมีรายงานว่านายมาร์ค เฮิร์ด ซีอีโอของเอชพี ถูกบีบให้ลาออกจากตำแหน่งเนื่องจากกรณีอื้อฉาวทางเพศ ขณะที่หุ้นแมคโดนัลด์ปิดพุ่ง 1.18% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดขายที่แข็งแกร่งในเดือนก.ค. รวมถึงยอดขายในสหรัฐ

Mtsgold.com
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


Powered by MySQL Powered by PHP Valid XHTML 1.0! Valid CSS!