วาติกันเผยคริสตจักรยินดีต้อนรับ “มนุษย์ต่างดาว”

[น่ารักสุดๆ]

วาติกันเผยคริสตจักรยินดีต้อนรับ “มนุษย์ต่างดาว”


หลวงพี่ กี คอนโซลมังโก นักดาราศาสตร์วัย 57 ปีแห่งสำนักวาติกัน
 
 
       เทเลกราฟ – หนึ่งในนักดาราศาสตร์แห่งสำนักวาติกันเผย เป็นไปได้ที่จะมีสิ่งมีชีวิตนอกโลก และคริสตจักรยินดีที่จะรับพวกเขาเข้าเป็นสมาชิก “ไม่ว่าเขาจะมีมือหรือขากี่ข้างก็ตาม”
       
       หลวงพี่ กี คอนโซลมังโก นักวิทยาศาสตร์อาวุโสแห่งสำนักวาติกัน กล่าวว่า ตนจะรู้สึกดีใจหากพบสิ่งมีชีวิตนอกโลกที่มีสติปัญญา และยินดีที่จะทำพิธีล้างบาปให้
       
       คำประกาศของท่านอาจเป็นจุดเริ่มต้นให้คณะมิชชันนารีออกไปเผยแผ่คริสต์ศาสนายังดวงดาวอื่นๆ ในห้วงอวกาศก็เป็นได้
       
       ดร.คอนโซลมังโกกล่าวในงานเทศกาลวิทยาศาสตร์ของอังกฤษว่า ศาสนาและวิทยาศาสตร์สามารถเดินไปด้วยกันได้อย่างไม่มีปัญหา
       
       อย่างไรก็ตาม ท่านปฏิเสธทฤษฎีครีเอชันนิสม์ (Creationism) และระบุว่า “การสรรค์สร้างที่ชาญฉลาด” (Intelligent design) ซึ่งอธิบายว่า พระเจ้าเท่านั้นที่จะบอกถึงช่องโหว่ของวิวัฒนาการ เป็นทฤษฎีที่ “แย่มาก”
       
       ดร.คอลโซลมังโก เป็นหนึ่งในทีมนักดาราศาสตร์ 12 คนที่ทำงานให้สำนักวาติกัน
       
       ท่านเผยว่า คริสตจักรได้สนับสนุนและให้ทุนแก่การศึกษาทางวิทยาศาสตร์มานานหลายร้อยปีแล้ว
       
       คอนโซลมังโก กล่าวว่า ตนรับได้กับความเชื่อเรื่องมนุษย์ต่างดาว และเมื่อถูกถามว่าจะรับพวกเขาเป็นคริสตศาสนิกชนได้หรือไม่ หลวงพี่ตอบว่า “ถ้าเขาร้องขอก็ย่อมได้”

 
 
สภาวิทยาศาสตร์แห่งพระสันตะปาปา (The Pontifical Academy of Science)
 
 
       “แต่ต้องดูความเป็นไปได้ที่เราจะพบพวกเขา รวมถึงสติปัญญาของเขา และวิธีสื่อสารกับเขาด้วย เมื่อพิจารณาปัจจัยเหล่านี้แล้ว โอกาสที่จะทำได้จริงก็คงน้อย”
       
       “พระเจ้าไม่ได้เป็นพระเจ้าของมนุษย์เท่านั้น พระองค์ยังเป็นพระเจ้าของเหล่าทวยเทพด้วย”
       
       หลวงพี่ระบุว่า จิตวิญญาณ, สติปัญญา, เจตนารมณ์เสรี และความต้องการมีอิสระในความรักและการตัดสินใจ อาจไม่ใช่คุณลักษณะที่ถูกจำกัดอยู่ในมนุษย์เท่านั้น
       
       “สิ่งใดๆ ก็ตาม ไม่ว่าพวกเขาจะมีกี่มือกี่ขา ล้วนมีจิตวิญญาณได้เหมือนกัน”
       
       ดร.คอนโซลมังโก วัย 57 ปี มีหน้าที่ดูแลพิพิธภัณฑ์หินอุกกาบาตของพระสันตะปาปา และเป็นนักดาราศาสตร์และนักวิทยาศาสตร์ด้านดาวเคราะห์ซึ่งทำงานในหอดูดาวของสำนักวาติกัน
       
       ท่านเคยเป็นนักวิทยาศาสตร์ในมลรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ นาน 15 ปี ก่อนจะตัดสินใจออกบวช
       
       หลวงพี่เผยว่า สภาวิทยาศาสตร์แห่งพระสันตะปาปา (The Pontifical Academy of Science) ซึ่งมี สตีเฟน ฮอว์กิง เป็นสมาชิก มีหน้าที่คอยรายงานความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์แก่พระสันตะปาปา และพระคาร์ดินัลระดับสูง