TARADTHONG.COM

สมาชิก VIP => General Discussion => ข้อความที่เริ่มโดย: songkhla ที่ กรกฎาคม 26, 2011, 05:24:27 PM



หัวข้อ: ชมวิวริมโขง ณ อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ
เริ่มหัวข้อโดย: songkhla ที่ กรกฎาคม 26, 2011, 05:24:27 PM
ชมวิวริมโขง ณ อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ

(http://www.taradthong.com/picture_library/26_7_54_6.jpg)

วันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ ไปเที่ยวไกลถึง "อุบลราชธานี" จังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ที่สามารถเห็นดวงอาทิตย์ขึ้นได้ก่อนพื้นที่อื่น ๆ ของประเทศไทย เพราะตั้งอยู่ทางตะวันออกสุดของประเทศ และมีความสำคัญในฐานะเป็นเมืองท่องเที่ยว ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม และประเพณีดั้งเดิมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว รวมถึงมีสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงามหลายแห่ง โดยเฉพาะ อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ ซึ่งตั้งอยู่ในท้องที่อำเภอโขงเจียมและอำเภอสิรินธร

(http://www.taradthong.com/picture_library/26_7_54_7.jpg)

          อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ หรือเดิมชื่อ อุทยานแห่งชาติดงหินกอง มีเนื้อที่ประมาณ 50,000 ไร่ ได้รับการประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2524 นับเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่ 33 ของประเทศ ที่ทำการอุทยานฯ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำมูลบริเวณแก่งตะนะ

(http://www.taradthong.com/picture_library/26_7_54_8.jpg)

          ซึ่งคำว่า "ตะนะ" จากการเล่าขานตามความเชื่อของชาวบ้านและประชาชนทั่วไป เดิมมาจากคำว่า "มรณะ" เนื่องจากบริเวณแก่งตะนะนี้ มีกระแสน้ำไหลที่เชี่ยวกราก และมีโขดหินใหญ่น้อยอยู่ทั่วไป ตลอดจนมีถ้ำใต้น้ำอยู่หลายแห่ง ชาวบ้านที่สัญจรทางน้ำหรือออกจับปลา มักประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตอยู่เป็นประจำ ชาวบ้านจึงเรียกแก่งนี้ว่า "แก่งมรณะ" ตามแรงบันดาลจากสภาพของสายน้ำที่ไหลผ่านแก่งนี้ ซึ่งต่อมาเรียกว่า "แก่งตะนะ" จึงตั้งเป็นชื่ออุทยานแห่งชาติ

(http://www.taradthong.com/picture_library/26_7_54_9.jpg)

          ภูมิประเทศเป็นที่ราบสูงและเนินเขาเตี้ย ๆ มียอดเขาบรรทัดเป็นจุดสูงสุด ความสูงประมาณ 543 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง มีแม่น้ำมูลและแม่น้ำโขงไหลผ่าน ตามแนวเขตทางด้านทิศเหนือไปออกประเทศลาว บริเวณแก่งตะนะจะมีสายน้ำที่เชี่ยวและลึก อีกทั้งยังมีถ้ำใต้น้ำหลายแห่ง จึงทำให้มีปลาอาศัยอยู่ชุกชุม ตรงกลางมีโขดหินขนาดใหญ่เป็นเกาะกลาง สภาพป่าทั่วไปเป็นป่าแพะหรือป่าแดง จะมีป่าดิบเฉพาะบริเวณริมห้วยใหญ่เท่านั้น สภาพพื้นที่ส่วนมากเป็นหินทรายและพื้นที่ศิลา

(http://www.taradthong.com/picture_library/26_7_54_10.jpg)

สถานที่ท่องเที่ยว

          ดอนตะนะ เป็นดอนหรือเกาะกลางที่เกิดขวางแม่น้ำมูล มีความกว้างประมาณ 450 เมตร ยาวประมาณ 700 เมตร มีสะพานแขวนทอดข้ามทั้ง 2 ด้านของเกาะ  ทางตอนเหนือของดอนตะนะมีหาดทรายเหมาะแก่การพักผ่อน บนดอนตะนะยังมีป่าอยู่ทั่วไป เป็นสภาพป่าดงดิบแล้งมีต้นไม้ใหญ่ให้ความร่มรื่นในช่วงเช้า และช่วงเย็นจะมีการทำประมงของชาวบ้านรอบ ๆ เกาะ

(http://www.taradthong.com/picture_library/26_7_54_11.jpg)

          แก่งตะนะ เป็นแก่งกลางลำน้ำมูลที่ใหญ่ที่สุด กลางแก่งตะนะมีโขดหินทรายมหึมา เป็นเกาะกลางลำน้ำมูลที่เกิดจากลำน้ำมูลทั้งสองสายที่เชี่ยวกราก และจะกัดเซาะลงในแนวหินสูงประมาณ 1 เมตร ถ้าสังเกตเกาะกลางแก่งตะนะจะเห็นสิ่งก่อสร้างรูปสี่เหลี่ยม ซึ่งสร้างขึ้นในสมัยฝรั่งเศสยังล่าอาณานิคม เพื่อใช้เป็นเครื่องชี้ร่องน้ำในการเดินเรือ บริเวณแก่งตะนะมีสายน้ำที่เชี่ยวและลึก ใต้ท้องน้ำเป็นหลุมหิน โขดหิน ทั้งยังมีโพรงถ้ำใต้น้ำหลายแห่ง จึงทำให้มีปลามาอาศัยบริเวณแก่งตะนะชุกชุม ช่วงที่เหมาะในการไปเที่ยว คือ เดือนพฤศจิกายน-มิถุนายน   

(http://www.taradthong.com/picture_library/26_7_54_12.jpg)


          น้ำตกตาดโตน เป็นน้ำตกที่มีความสวยงามมากแห่งหนึ่ง เกิดจากลำห้วยตาดโตนไหลผ่านลานหินแล้วตกลงสู่ที่ลุ่ม เกิดเป็นแอ่งน้ำสามารถลงเล่นน้ำได้ มีน้ำเย็นใสสะอาด บริเวณโดยรอบเป็นป่าไม้และดอกไม้นานาพรรณ นักท่องเที่ยวสามารถชมความงามของน้ำตกได้ ในเดือนมิถุนายนถึงเดือนตุลาคมของทุกปี การเดินทาง ทางหลวงหมายเลข 2173 ซึ่งแยกจากทางหลวงหมายเลข 217 เข้าไปประมาณ  5 กิโลเมตร

(http://www.taradthong.com/picture_library/26_7_54_13.jpg)

          ลานผาผึ้ง เป็นพลาญหินทรายและหน้าผาชัน โดยหน้าผาจะหันหน้าสู่ด้านทิศตะวันออก เหมาะแก่การชมทิวทัศน์ช่วงพระอาทิตย์ขึ้น และสามารถมองเห็นสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวได้ ในช่วงฤดูหนาวประมาณเดือนตุลาคม-ธันวาคม จะได้ชมดอกไม้ป่า เช่น ดุสิตา สร้อยสุวรรณา กระดุมเงิน หยาดน้ำค้าง แววมยุรา เป็นต้น ลานผาผึ้งอยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯประมาณ 1.5 กิโลเมตร รถยนต์เข้าถึง หรือจะเดินเท้าตามเส้นทางศึกษาธรรมชาติ เลียบฝั่งแม่น้ำมูลได้เช่นกัน

(http://www.taradthong.com/picture_library/26_7_54_14.jpg)

          ถ้ำพระ หรือ ถ้ำภูหมาไน อยู่ห่างจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นชะง่อนผายื่นออกจากฝั่งแม่น้ำมูล กว้าง 45 เมตร ลึก 10 เมตร ภายในถ้ำพบศิลาจารึกและแท่นศึวลึงค์ (ฐานโยนี) อายุราวพุทธศตวรรษที่ 12-13 สมัยพระเจ้ามเหนทรวรมัน (เจ้าชายจิตรเสน) ปัจจุบันศิลาจารึกตัวจริงได้นำไปเก็บรักษาไว้ที่ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติอุบลราชธานี

(http://www.taradthong.com/picture_library/26_7_54_15.jpg)

          น้ำตกรากไทร - ผารากไทร เป็นน้ำตกที่ไหลลงมาตามหน้าผา ผ่านรากไทรริมฝั่งแม่น้ำมูลมองดูคล้ายม่านมู่ลี่ บริเวณแห่งนี้ประกอบด้วยเฟิร์น ตะไคร่น้ำ และมอส ทำให้มีอากาศเย็นสบายสามารถเข้าชมได้ตลอดทั้งปี ใช้เส้นทางเดี่ยวกับถ้ำพระ ห่างจากถ้ำพระ ประมาณ 30 เมตร

          ผาด่าง เป็นจุดท่องเที่ยวแห่งใหม่ของแก่งตะนะ เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวแบบค้างคืนในป่า เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นลักษณะเดี่ยวกับผาชนะได แต่จะมองเห็นสองข้างของหน้าผา ด้านขาวจะมองเห็นเขื่อนสิรินธร ด้านซ้ายจะมองแห่งผืนป่าของประเทศลาว ด้านหน้าจะมองเห็นหมู่บ้านของชาวลาว และภูเขาที่สูงตะง่านสลับซับซ้อนกัน รวมถึงมองเห็นสะพานข้ามแม่น้ำโขงของลาวคือสะพานปากแซ

(http://www.taradthong.com/picture_library/26_7_54_16.jpg)

          สะพานแขวน เป็นสะพานแขวนคนเดินข้ามที่ยาวที่สุดในประเทศ ที่เชื่อมจากฝั่งที่ทำการกับดอนตะนะทั้งสองข้าง โครงสร้างเป็นเหล็กยึดโยงด้วยลวดสลิงขนาดใหญ่ ยาวประมาณข้างละ 295 เมตร เป็นจุดชมวิวสองฝั่งแม่น้ำมูลเหนือแก่งตะนะ และใช้เดินข้ามเข้าไปชมธรรมชาติบนดอนตะนะได้อย่างเพลิดเพลิน

          ทั้งนี้ บริเวณที่ทำการอุทยานฯ  มีบ้านพักไว้บริการนักท่องเที่ยว สอบถามรายละเอียดได้ที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โทรศัพท์             0 2562 0760       หรือ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ โทรศัพท์ 0 4540 6887-8

(http://www.taradthong.com/picture_library/26_7_54_17.jpg)

การเดินทาง

          รถยนต์

          อุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ อยู่ห่างจากจังหวัดอุบลราชธานีประมาณ 90 กิโลเมตร และสามารถเดินทางมาได้ 2 เส้นทาง คือ

          • จากจังหวัดอุบลราชธานีไปตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 217 ผ่านอำเภอวารินชำราบ กิ่งอำเภอสว่างวีระวงศ์ ถึงอำเภอพิบูลมังสาหาร แยกเข้าทางหลวงจังหวัดหมายเลข 2173 ผ่านอำเภอสิรินธร ถึงสามแยกตลาดนิคม 2 เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ทางหลวงจังหวัดหมายเลข 2296 สุดทางจะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ

          • จากจังหวัดอุบลราชธานีไปตามเส้นทางเดียวกับเส้นทางแรก เมื่อถึงอำเภอพิบูลมังสาหารเลี้ยวซ้ายข้ามสะพานพิบูลมังสาหาร 200 ปี เลี้ยวขวาไปตามทางหลวงจังหวัดหมายเลข 2222 (ถนนพิบูลมังสาหาร-โขงเจียม)

          1. ก่อนถึงอำเภอโขงเจียม ประมาณ 4 กม. เลี้ยวขาวผ่านสันเขื่อนปากมูล ประมาณ 1.2 กม. ถึงสามแยก เลี้ยวซ้าย ถึงด่านแก่งตะนะ

          2. ผ่านเข้าตัวอำเภอโขงเจียม ข้ามสะพานโขงเจียมไปตามทางหลวงจังหวัดหมายเลข 2173 ถึงบ้านหนองชาด ซึ่งห่างจากอำเภอโขงเจียม 6 กิโลเมตร เลี้ยวขวาเข้าสู่เส้นทางหลวงจังหวัดหมายเลข 2296 สุดเส้นทางถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติแก่งตะนะ