TARADTHONG.COM
พฤษภาคม 05, 2024, 08:32:49 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: ตลาดทองดอทคอม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  

Copy Code


หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: โพลชี้คนไม่เชื่อคำพูด ฟิล์ม แอนนี่ บรู๊ค แต่เห็นใจ  (อ่าน 3942 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
น่ารักสุดๆ
Administrator
Hero Member
*****

คะแนนความนิยม: 2330
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1658



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: กันยายน 23, 2010, 05:45:30 PM »

โพลชี้ คนไม่เชื่อคำพูด ฟิล์ม-แอนนี่ แต่เห็นใจ (ไอเอ็นเอ็น)

          ดุสิตโพลเผยผลสำรวจประชาชน 69.16% ไม่เชื่อคำพูดของทั้ง ฟิล์ม และแอนนี่ บรู๊ค แต่เห็นใจทั้งคู่ แนะตรวจ DNA

          จากกระแสข่าววงการบันเทิงที่เป็นที่สนใจของคนทั่วประเทศขณะนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างฟิล์ม รัฐภูมิ กับ แอนนี่ บรู๊ค ที่ฝ่ายดาราสาวคลอดลูกชายมาได้ 3 เดือนแล้ว จนกลายเป็นกระแสที่ถึงขั้นต้องมีการพิสูจน์ DNA เพื่อหาข้อเท็จจริง "สวนดุสิตโพล" มหาวิทยาลัย ราชภัฏสวนดุสิต จึงได้สอบถามความคิดเห็นจากประชาชนในกรุงเทพฯ ปริมณฑล ที่สนใจติดตามข่าวนี้ จำนวน 1,276 คน ระหว่างวันที่ 20-23 กันยายน 2553 สรุปผลได้ดังนี้

 1. ประชาชนคิดว่าการนำเสนอข่าวของสื่อ กรณีข่า วฟิล์ม กับ แอนนี่ เป็นอย่างไร ?

          อันดับ 1 มากเกินไป 62.07%

          เพราะตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมาสื่อทุกแขนงมีการนำเสนอข่าวฟิล์มกับแอนนี่อย่าง ต่อเนื่อง ถึงทั้ง 2 คนจะเป็นดารา แต่ก็ควรถือเป็นเรื่องส่วนตัวไม่ควรนำมาเปิดเผย ฯลฯ

          อันดับ 2 เหมาะสมแล้ว 32.18%

          เพราะทั้ง 2 คน เป็นคนในวงการทั้งคู่ ถือเป็นบุคคลสาธารณะที่เยาวชนหรือเด็กมักทำตาม, เป็นหน้าที่ของสื่อที่จะต้องสะท้อนความจริงออกมา ฯลฯ

          อันดับ 3 น้อยเกินไป 5.75%

          เพราะประเด็นที่นำเสนอไม่มีอะไรใหม่ ๆ , นำเสนอข่าวเพียงด้านเดียวที่เป็นการตอกย้ำในสิ่งที่ไม่ดี ฯลฯ

 2. ประชาชนคิดอย่างไร ? กรณี ข่าวฟิล์ม กับ แอนนี่

          อันดับ 1 อยากให้ออกมาพูดความจริง ช่วยกันหาทางแก้ไขจะดีกว่าเพราะเด็กที่เกิดขึ้นมาไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร 29.61%

          อันดับ 2 เป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้กับคนทั่วไป แต่บังเอิญทั้ง 2 คนเป็นดาราจึงกลายเป็นข่าวคึกโครม 27.34%

          อันดับ 3 อยากให้มีการตรวจ DNA โดยเร็ว เพื่อจะได้ยุติเรื่องต่างๆที่คลางแคลงใจลง 26.44%

          อันดับ 4 เห็นใจทั้ง 2 ฝ่าย เพราะกรณีนี้กลายเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจและสื่อมวลชนติดตามอย่างใกล้ชิด 9.55%

          อันดับ 5 เป็นเรื่องส่วนตัว ควรปล่อยให้ฟิล์มกับแอนนี่ตกลงกันเองจะดีกว่า 7.06%

 3. ประชาชนคิดว่าการนำเสนอข่าวของสื่อ กรณีข่าว ฟิล์ม กับ แอนนี่ เป็นอย่างไร?

          อันดับ 1 ไม่เชื่อทั้ง 2 ฝ่าย 69.16%

          เพราะ เรื่องที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงและการงาน การให้ข้อมูลต่างๆอาจไม่เป็นความจริงเท่าที่ควร ฯลฯ

          อันดับ 2 เชื่อแอนนี่มากกว่า 19.54%

          เพราะ ถ้าไม่ใช่เรื่องจริงฝ่ายหญิงคงไม่กล้าออกมาพูด ผู้เป็นแม่ย่อมรักและต้องการปกป้องลูก ฯลฯ

          อันดับ 3 เชื่อฟิล์มมากกว่า 11.30%

          เพราะ คิดว่าฟิล์มมีความเป็นลูกผู้ชายพอที่จะยอมรับในสิ่งที่ทำลงไป ,ไม่คุ้มกับชื่อเสียงที่มีมา ฯลฯ

 4. ประชาชนสงสารหรือเห็นใจฝ่ายใดมากกว่ากัน ?

          อันดับ 1 สงสารและเห็นใจทั้ง 2 ฝ่ายพอ ๆ กัน 55.17%

          เพราะ ทั้ง 2 ฝ่ายคงจะเครียดพอ ๆ กัน , สังคมต่างวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่าง ๆ นานา โดยยังไม่รู้เรื่องราวข้อเท็จจริง ฯลฯ

          อันดับ 2 สงสารและเห็นใจ แอนนี่ บรู๊ค มากกว่า 24.89%

          เพราะช่วงตั้งท้องคงลำบากเพราะต้องดูแลตนเองและลูกเพียงลำพัง , ได้รับผลกระทบทางจิตใจพอสมควร ฯลฯ

          อันดับ 3 สงสารและเห็นใจ ฟิล์ม มากกว่า 10.75%

          เพราะสังคมมองว่าฝ่ายชายต้องเป็นฝ่ายที่ต้องรับผิดชอบ, ฟิล์มเป็นดาราที่มีชื่อสียงและมีแฟนคลับมาก, ถูกยกเลิกงาน ฯลฯ

          อันดับ 4 ไม่สงสารและไม่เห็นใจทั้ง 2 ฝ่าย 9.19%

          เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นการยินยอมของทั้ง 2 ฝ่าย ทำให้คนรอบข้างหรือคนใกล้ชิดต้องได้รับผลกระทบไปด้วย ฯลฯ

 5. ประชาชนคิดว่า กรณี นี้ควรมีการตรวจ DNA หรือไม่?

          อันดับ 1 ควรมีการตรวจ DNA 74.75%

          เพราะจะได้รู้ข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร เพื่อความถูกต้องและเป็นธรรมแก่ทั้ง 2 ฝ่าย ฯลฯ

          อันดับ 2 ตรวจก็ได้ไม่ตรวจก็ได้ 19.51%

          เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน มีทั้งผลดีและผลเสียที่กระทบต่อชีวิตและหน้าที่การงานของทั้งคู่ ฯลฯ

          อันดับ 3 ไม่ควรมีการตรวจ DNA 5.74%

          เพราะเป็นสิทธิส่วนบุคคล เป็นเรื่องส่วนตัวที่ไม่ควรนำมาเปิดเผย ฯลฯ

 6. ทางออกที่ดีที่สุดของ กรณี นี้ควรทำอย่างไร ?

          อันดับ 1 ตรวจ DNA เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริง 62.12%

          อันดับ 2 พูดความจริง /พูดเรื่องจริง /ไม่โกหก 18.83%

          อันดับ 3 หาคนกลางหรือผู้ใหญ่ที่นับถือของทั้ง 2 ฝ่าย มาไกล่เกลี่ย 11.68%

          อันดับ 4 สื่อหยุดนำเสนอข่าว ปล่อยให้เรื่องจบลงไปเอง 7.37%

 7. บทเรียน /สิ่งที่สังคมได้รับจากกรณีนี้ คือ

          อันดับ 1 จะทำอะไรต้องคิดให้รอบคอบ คำนึงถึงผลที่จะตามมาว่าคุ้มกันหรือไม่ 36.64%

          อันดับ 2 ผู้ที่เป็นดารา หรือ บุคคลสาธารณะจะต้องระมัดระวังตัวให้มากกว่าคนทั่วไป 31.55%

          อันดับ 3 สื่อมวลชนควรนำเสนอข่าวนี้อย่างเหมาะสม เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน 19.33%

          อันดับ 4 ผู้ปกครองหรือครูอาจารย์สามารถนำกรณีนี้ไปเป็นกรณีตัวอย่างสำหรับสอนเด็กได้ 12.48%
บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


Powered by MySQL Powered by PHP Valid XHTML 1.0! Valid CSS!