|
หัวข้อ: นักวิจัยพบสูตรเจลป้ายช่องคลอดต้านเอชไอวีได้ผลแล้ว เริ่มหัวข้อโดย: น่ารักสุดๆ ที่ กรกฎาคม 20, 2010, 07:26:03 PM นักวิจัยพบสูตรเจลป้ายช่องคลอดต้านเอชไอวีได้ผลแล้ว
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ เอเอฟพี - นักวิทยาศาสตร์รายงานผลการค้นพบครั้งใหญ่ในการใช้เจลป้ายช่องคลอด ซึ่งสามารถต้านเชื้อไวรัสเอชไอวีได้ โดยมีเป้าหมายเพื่อป้องกันการติดเชื้อโรคเอดส์ในผู้หญิง โดยเฉพาะในแอฟริกาใต้ จากคู่นอนที่ไม่ยอมใส่ถุงยางอนามัย นักวิจัย ชี้ว่า เจลต้นแบบ ซึ่งอยู่ในขั้นทดลองระยะที่ 2 จากทั้งหมด 3 ระยะ สามารถลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัสเอชไอวีลงได้ทั้งหมด 39% และ 54% ในผู้หญิงที่ใช้เจลอย่างสม่ำเสมอ เจลที่ทำการทดลองดังกล่าวมีส่วนผสมของตัวยาทีโนโฟเวียร์ 1% ซึ่งเป็นตัวยาต้านไวรัสสำคัญที่ใช้ในการยับยั้งเชื้อเอชไอวี โดยสูตรเจลนี้ยังปลอดภัย และไม่มีข้อบ่งชี้ว่าเสี่ยงต่อการดื้อยาด้วย นักวิจัยเสริม การศึกษาครั้งนี้เกิดขึ้นในเวลาเดียวกับการประชุมนานาชาติเกี่ยวกับโรคเอดส์ครั้งที่ 18 เป็นเวลา 6 วันในกรุงเวียนนา ซึ่งบรรดานักรณรงค์ทั้งหลายต่างตอบรับการค้นพบดังกล่าวด้วยความยินดี ด้าน ไมเคิล ซิไดบ์ ผู้อำนวยการยูเอ็นเอดส์ของสหประชาชาติ กล่าวว่า นี่เป็นครั้งแรกที่ทางเลือกในการป้องกัน และควบคุมเชื้อเอชไอวีในผู้หญิงได้ผล และหากได้รับการยืนยัน เจลฆ่าเชื้อดังกล่าวนี้จะเป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพในการป้องกัน และหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ได้ แอนโธนี โฟซี ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และติดเชื้อแห่งชาติ หรือ เอ็นไอเอไอดี ของสถาบันด้านสุขภาพสหรัฐฯ เผยว่า การศึกษานี้เป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ของทั้งการวิจัยยาฆ่าเชื้อ และการป้องกันเอดส์ไปพร้อมๆ กัน ขณะที่ มาร์กาเร็ต ชาน ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ก็ได้กล่าวแสดงความยินดีกับผลวิจัยที่ออกมาด้วย โดยเสริมว่า หากเจลดังกล่าวได้รับการพิสูจน์ว่าปลอดภัย และมีประสิทธิภาพจริงแล้ว ดับเบิลยูเอชโอจะทำงานร่วมกับหลายๆ ประเทศ เพื่อเร่งใช้ผลิตภัณฑ์นี้โดยเร็ว ทั้งนี้ ในปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อเอชไอวีมากกว่า 33 ล้านคน โดยเกินกว่า 2 ใน 3 อยู่ในภูมิภาคทะเลทรายซาฮาราทางตอนใต้ของแอฟริกา ที่ซึ่งผู้ติดเชื้อรายใหม่ถึง 60% เป็นผู้หญิง และเด็กผู้หญิง การศึกษาดังกล่าว ซึ่งนำโดยศูนย์เพื่อโครงการวิจัยโรคเอดส์ในแอฟริกาใต้ (CAPRISA) ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารวิทยาศาสตร์ในวันที่ 2 ของการประชุมเอดส์นานาชาติ หลังใช้เวลาเกือบ 20 ปีในการวิจัยยาฆ่าเชื้อเอชไอวี โดยนี่เป็นครั้งแรกที่ผลออกมาในทางบวก |