TARADTHONG.COM

สมาชิก VIP => ข่าวตลาดทอง => ข้อความที่เริ่มโดย: น่ารักสุดๆ ที่ กรกฎาคม 30, 2010, 06:45:31 PM



หัวข้อ: ดาวโจนส์ปิดลบ 30.72 จุด หลังผู้ว่าเฟดหวั่นสหรัฐอาจเผชิญเงินฝืด
เริ่มหัวข้อโดย: น่ารักสุดๆ ที่ กรกฎาคม 30, 2010, 06:45:31 PM
ข่าว เศรษฐกิจ การเงิน
07/30/2010
ดาวโจนส์ปิดลบ 30.72 จุด หลังผู้ว่าเฟดหวั่นสหรัฐอาจเผชิญเงินฝืด
ดัชนีดาวโจนส์ ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (29 ก.ค.) หลังจากผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาเซนต์หลุยส์ได้ออกมาแสดงความกังวลว่า เศรษฐกิจสหรัฐอาจเผชิญกับภาวะเงินฝืดแบบเดียวกับญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม ดาวโจนส์และดัชนีอื่นๆในตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลงไม่มากนัก เพราะตลาดได้แรงหนุนหลังจากสหรัฐเปิดเผยจำนวนคนว่างงานรายสัปดาห์ที่ลดลง มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ และข้อมูลที่บ่งชี้ถึงเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัวในยุโรป

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดลบ 30.72 จุด หรือ 0.29% แตะที่ 10,467.16 จุด ดัชนี S&P 500 ลดลง 4.60 จุด หรือ 0.42% ปิดที่ 1,101.53 จุด และดัชนี Nasdaq ลดลง 12.87 จุด หรือ 0.57% ปิดที่ 2,251.69 จุด

ปริมาณการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กมีอยู่ราว 8.45 พันล้านหุ้น มีจำนวนหุ้นบวกมากกว่าหุ้นลบในอัตราส่วน 9 ต่อ 8 ส่วนปริมาณการซื้อขายในตลาด Nasdaq มีอยู่ราว 9.65 พันล้านหุ้น

ตลาดหุ้นนิวยอร์กเคลื่อนไหวอยู่ในแดนบวกในช่วงเช้า เพราะได้แรงหนุนจากรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐที่ระบุว่า จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่แล้ว ร่วงลง 11,000 ราย มาอยู่ที่ระดับ 457,000 ราย ซึ่งลดลงมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 459,000 ราย ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 4 สัปดาห์ ส่วนจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานโดยเฉลี่ย 4 สัปดาห์ ลดลง 4,500 ราย มาอยู่ที่ระดับ 452,500 ราย

นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยบวกหลังจากทางการยุโรปเปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจของยุโรปพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 2 ปี ที่ 101.3 จุดในเดือนก.ค. จากระดับเดือนมิ.ย.ที่ 99 จุด และทางการเยอรมนีรายงานว่า จำนวนคนว่างงานในเยอรมนีปรับตัวลดลงเป็นเดือนที่ 13 ติดต่อกันในเดือนกรกฎาคม หลังจากที่ภาคเอกชนได้รับประโยชน์จากเศรษฐกิจโลกที่แข็งแกร่งขึ้น

แต่ตลาดเริ่มถอยร่นลงมาเคลื่อนไหวในแดนลบในช่วงบ่าย หลังจากนายเจมส์ บุลลาร์ด ผู้ว่าการเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ ได้ออกมาแสดงความกังวลว่า เศรษฐกิจสหรัฐอาจเผชิญกับภาวะเงินฝืดเหมือนกับญี่ปุ่นหากภาวะเศรษฐกิจโดยรวม อ่อนแอลง โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากดัชนีราคาผู้บริโภค (ซีพีไอ) ในเดือนมิ.ย.ที่ลดลง 0.1% ทำสถิติลดลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 และตรงข้ามกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะทรงตัวจากระดับของเดือนพ.ค. เนื่องจากต้นทุนด้านพลังงาน อาหาร และค่าธรรมเนียมสายการบิน ปรับตัวลดลง

นอกจากนี้ นายบุลลาร์ดกล่าวว่าการที่คณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด (เอฟโอเอ็มซี) ตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำนานเกินไปนั้น อาจกลายเป็น "ดาบสองคม" ที่จะส่งผลให้ดัชนีซีพีไอซึ่งเป็นดัชนีชี้วัดเงินเฟ้อ ปรับตัวลดลง และนำไปสู่ภาวะเงินฝืดแบบเดียวกับที่ญี่ปุ่นกำลังเผชิญ

หุ้นเอ็กซอนโมบิลปิดลบ 57 เซต์ แตะที่ 60.34 ดอลลาร์ แม้บริษัทเปิดเผยรายงานผลประกอบการที่เพิ่มขึ้น ขณะที่หุ้นโซนี่ซึ่งซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์ก พุ่งขึ้น 7.9% หลังจากโซนี่คาดว่า กำไรสุทธิของบริษัทจะอยู่ที่ 6 หมื่นล้านเยน (688 ล้านดอลลาร์) ในปีงบ 2553 ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนมี.ค. 2554 เมื่อเปรียบเทียบกับการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 5 หมื่นล้านเยน ส่วนกำไรจากการดำเนินงานอาจจะอยู่ที่ 1.80 แสนล้านเยน เมื่อเปรียบเทียบกับการคาดการณ์เมื่อเดือนพ.ค.ที่ 1.60 แสนล้านเยน

นักลงทุนจับตาดูตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ประจำไตรมาส 2 ปี 2553 ซึ่งกระทรวงพาณิชย์สหรัฐจะเปิดเผยในคืนวันศุกร์นี้ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจีดีพีจะขยายตัวในอัตรา 2.3% ต่อปี ลดลงจากไตรมาสแรกที่ขยายตัว 2.7% ต่อปี

Mtsgold.com