TARADTHONG.COM
พฤษภาคม 02, 2024, 09:58:13 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: ตลาดทองดอทคอม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  

Copy Code


หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ใส่ใจอาหารสักนิด เพื่อหนึ่งชีวิตในครรภ์  (อ่าน 4588 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
น่ารักสุดๆ
Administrator
Hero Member
*****

คะแนนความนิยม: 2330
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1658



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: มิถุนายน 27, 2010, 08:19:21 PM »

ใส่ใจอาหารสักนิด เพื่อหนึ่งชีวิตในครรภ์ M&C แม่และเด็ก)

            อาหาร มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อทารกในครรภ์ เพราะเมื่อคุณแม่รับประทานอะไรเข้าไป ทารกก็ย่อมได้รับสารอาหารนั้นไปด้วย คุณแม่จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์และพยายามเลี่ยงอาหารที่อาจจะเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ด้วย นอกจากนี้ยังควรเพิ่มสารอาหารบางชนิดที่มีความจำเป็นพิเศษเข้าไปด้วย

 เพิ่มสารอาหารสำคัญ

โปรตีน

            โปรตีนเป็นแหล่งพลังงานสำคัญ มีส่วนสำคัญในการสร้างเนื้อเยื่อให้กับทารกในครรภ์ ช่วยในการเสริมสร้างความเจริญเติบโต ทารกที่ได้รับโปรตีนตลอดการตั้งครรภ์อย่างพอเพียงเมื่อคลอดออกมาทารกจะมีร่างกายที่แข็งแรง ตัวยาวสมส่วน ฉะนั้นในช่วง 3 เดือนแรกจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่คุณแม่จะต้องได้รับโปรตีนอย่างพอเพียง เพราะในช่วงไตรมาสนี้ เป็นช่วงที่ทารกกำลังสร้างอวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกาย นอกจากนี้โปรตีนยังมีคุณประโยชน์ต่อตัวคุณแม่ คือช่วยให้มดลูกและเต้านมเจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์

            แหล่งโปรตีนพบมากใน เนื้อ นม เนย ไข่ และถั่ว แต่ทว่าเนื้อปลาจะเป็นแหล่งโปรตีนที่ดีที่สุด เพราะมีปริมาณไขมันและคอเลสเตอรอลต่ำ คุณแม่ควรได้รับโปรตีนอย่างน้อย 60 กรัมต่อวัน

แคลเซียม

            แคลเซียม ถือเป็นแร่ธาตุ ที่มีความสำคัญต่อการสร้างกระดูก และฟันของทารกในครรภ์ คุณแม่ตั้งครรภ์ร่างกายมีความต้องการแคลเซียม 1,000 -1,200 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งมากกว่าคนปกติ ทั้งนี้เพราะแคลเซียมมีส่วนในการช่วยสร้างเสริมกระดูกและฟันของทารก และป้องกันการเกิดโรคกระดูกพรุนสำหรับแม่ด้วย หญิงตั้งครรภ์จึงมีความต้องการแคลเซียมมากกว่าคนปกติ โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 2

            แหล่งอาหารที่มีแคลเซียมได้แก่ นม และเนยแข็ง นมสด ปลาไส้ตัน ปลากรอบตัวเล็กตัวน้อยที่ทานได้ทั้งกระดูก ถั่ว และ งา เป็นต้น

โฟเลต

            โฟเลต ถือเป็นวิตามินที่มีส่วนช่วยในการเสริมสร้างสมอง ไตรมาสแรก โฟเลตมีความจำเป็นมาก เพราะเป็นช่วงที่ตัวอ่อนกำลังเจริญเติบโต แคลเซียมมีส่วนในการเสริมสร้างเซลล์สมอง มารดาควรได้รับโฟเลตอย่างน้อย 600 มิลลิกรัมต่อวันเพื่อป้องกันความเสี่ยงโรคสมองพิการแต่กำเนิด เพราะมีรายงานการวิจัยว่ามารดาที่ขาดโฟเลตขณะตั้งครรภ์ โอกาสที่ทารกจะคลอดออกมามีสมองพิการค่อนข้างสูง

            โฟเลต พบมากในอาหารจำพวกเมล็ดถั่ว ธัญพืช ผัก ผลไม้ น้ำผลไม้ โดยเฉพาะน้ำส้ม และอาหารอื่นๆ ที่เสริมด้วยโฟเลต ล้วนเป็นแหล่งอาหารที่ดีทั้งสิ้น อยากแนะนำให้ผู้หญิงที่กำลังวางแผนตั้งครรภ์รับประทานอาหารที่มีโฟเลตสูงทุกวัน นอกจากนี้โฟเลตยังมีความสำคัญไปตลอดการตั้งครรภ์ เพราะจะเป็นตัวช่วยสร้างเม็ดเลือดให้คุณแม่ตั้งครรภ์อีกด้วย

ธาตุเหล็ก

            เป็นเกลือแร่ชนิดหนึ่ง ที่มีความจำเป็นต่อฮีโมโกลบิน ซึ่งเป็นโปรตีนสำคัญในเม็ดเลือดแดง โดยเป็นตัวพาออกซิเจนไปสู่เนื้อเยื่อและทารกในครรภ์ ถ้าร่างกายคุณมีธาตุเหล็กไม่เพียงพอจะนำไปสู่การเป็นโรคโลหิตจาง (Anemia) ซึ่งทำให้คุณรู้สึกเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย หายใจไม่สะดวก

            ธาตุเหล็กพบมากใน เนื้อแดง เนื้อปลา ไข่ ผักใบเขียว เช่น ใบขี้เหล็ก ใบตำลึง ใบชะพลู ผักขม ถั่ว เส้น และผลไม้อบแห้งทั่วไป

 อาหารเหล่านี้ แม่ท้องควรเลี่ยง

             แอลกอฮอล์ คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ทุกชนิด เพราะแอลกอฮอล์มีอันตรายต่อทารกในครรภ์ คือ มีผลต่อสมองทำให้สมองพิการ

             คาเฟอีน คาเฟอีนพบปริมาณมากในกาแฟ ชา น้ำอัดลม และขนมบางชนิด เช่น ช็อกโกแลต ซึ่งถ้าคุณแม่ตั้งครรภ์ได้รับคาเฟอีนในปริมาณสูงต่อวัน คาเฟอีนจะส่งผลต่อทารก คือ ทำให้ทารกคลอดก่อนกำหนด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ บางประเทศมีการรณรงค์ไม่ให้คนท้องทานเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน หรือทานให้น้อยกว่าประมาณ 600 มิลลิกรัมต่อวัน (กาแฟ 1 ถ้วยมีปริมาณคาเฟอีน ประมาณ 60 มิลลิกรัม)

             อาหารดิบ ถึงแม้จะยังไม่มีข้อมูลยืนยันถึงอันตรายของอาหารดิบ แต่พบว่าอาหารดิบทุกชนิดนั้นอาจจะทำให้คุณแม่ติดเชื้อจากอาหารที่ไม่ผ่านความร้อน ซึ่งจะยังมีเชื้อโรคอยู่ ตัวอย่างอาหารดิบ เช่น หอย กุ้ง ไข่ลวก เหล่านี้เป็นต้น

             อาหารรสหวาน อาหารที่มีรสหวานและมีไขมันมาก คุณแม่ควรเลี่ยงเพราะจะทำให้ร่างกายได้รับปริมาณน้ำตาลต่อวันมาก อาจจะทำให้เกิดโรคเบาหวานระหว่างตั้งครรภ์ และมีผลต่อทารก คือ ทำให้ทารกมีน้ำหนักตัวมากกว่าปกติ ทำให้คลอดยาก มีผลต่อระบบหายใจของทารกและมีแนวโน้มที่ทารกที่คลอดออกมาจะเป็นเบาหวานเมื่อโตขึ้น ดังนั้นคุณแม่ควรพยายามควบคุมระดับน้ำตาลระหว่างตั้งครรภ์ด้วยค่ะ

บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


Powered by MySQL Powered by PHP Valid XHTML 1.0! Valid CSS!