วาติกันฉาวอีก! สื่ออิตาลีเผยนักบวชส่วนมากเป็นเกย์

[น่ารักสุดๆ]

วาติกันฉาวอีก! สื่ออิตาลีเผยนักบวชส่วนมากเป็นเกย์
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

การ์เดียน - สำนักวาติกันออกโรงแก้ข่าวอีกครั้ง หลังนิตยสารฉบับหนึ่งเผยแพร่ภาพนักบวชเที่ยวบาร์เกย์และมีเพศสัมพันธ์กับไม้ป่าเดียวกัน
       
       คริสตจักรคาทอลิก ซึ่งเคยถูกวิพากษ์วิจารณ์กรณีนักบวชล่วงละเมิดทางเพศ ต้องตกเป็นข่าวฉาวอีกครั้งเมื่อนิตยสารฉบับหนึ่งของอิตาลีตีแผ่เรื่องราวซึ่งใช้ชื่อว่า “ชีวิตสองด้านของนักบวชเกย์ในกรุงโรม”
       
       นิตยสารวีคลีย์พาโนรามา ของนายกรัฐมนตรี ซิลวีโอ แบร์ลุสโกนี แห่งอิตาลี เผยแพร่ภาพนักบวชเที่ยวบาร์เกย์และมีสัมพันธ์สวาทกับชายซึ่งถ่ายได้จากกล้องที่ซ่อนไว้ แม้สำนักวาติกันจะไม่ได้ประณามการรักร่วมเพศ แต่ก็มีคำสอนว่าการกระทำดังกล่าวถือเป็น “ความบกพร่องจากภายใน” และเมื่อไม่นานมานี้ สมเด็จพระสันตะปาปาเบเนดิกต์ ก็ทรงสั่งห้ามไม่ให้เกย์ถือเพศนักบวช
       
       สำนักวาติกันออกมาตอบโต้ โดยระบุว่า นิตยสารดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อ “สร้างความเสื่อมเสียให้กับเหล่านักบวช” แต่ก็เรียกร้องให้นักบวชสีม่วงเปิดเผยตัวตน พร้อมทั้งสึกไปถือเพศฆราวาสเสีย
       
       “พวกเขาควรจะออกมายอมรับต่อสังคม” แต่ก็ “ไม่ควรมาเป็นนักบวช”
       
       นิตยสารพาโนรามา เปิดเผยว่า หลวงพ่อปอล นักบวชชาวฝรั่งเศสวัย 30 ปี ได้เข้าไปในงานเลี้ยงสังสรรค์ซึ่งมีชายขายบริการอยู่ด้วย 2 คน และหลวงพ่อได้สวดมิสซาในวันรุ่งขึ้นก่อนขับรถพาชายทั้งสองไปที่สนามบิน เว็บไซต์ของนิตยสารดังกล่าวลงภาพหลวงพ่อปอลสวมเสื้อนักบวชปกสีขาวโดยไม่สวมกางเกง และมีภาพหนุ่มเกย์ 2 คนเป็น “นกต่อ” นอกจากนี้ ยังตีพิมพ์ภาพนักบวชกำลังจุมพิตชายซึ่งเป็น “ผู้สมรู้ร่วมคิด” ของนิตยสารดังกล่าวด้วย
       
       นิตยสารอ้างคำพูดของนักบวชรูปหนึ่ง ว่า จำนวนนักบวชเกย์ในกรุงโรมมีมากถึงร้อยละ 98 ด้านสำนักวาติกันก็ยืนยันว่า นักบวชส่วนใหญ่ยังเป็น “แบบอย่างแห่งความดี” สำหรับผู้คน และจำนวนนักบวชเกย์นั้น “มีเพียงเล็กน้อย แต่ก็ไม่สมควรมองข้าม”
       
       เมื่อ 8 ปีที่แล้วมีการเผยแพร่บทความซึ่งอ้างอิงงานวิจัยเกี่ยวกับคริสตจักรอเมริกันที่สรุปว่า ร้อยละ25-50 ของนักบวชเป็นพวกรักร่วมเพศ
       
       ฟรังโก กริลลีนี อดีต ส.ส.อิตาลี และนักเคลื่อนไหวรณรงค์เพื่อชาวสีม่วง ระบุว่า “ถ้าให้นักบวชเกย์สึกออกมาทั้งหมด ซึ่งเราก็อยากให้เป็นเช่นนั้น จะทำให้คริสตจักรเกิดปัญหาในการบริหารงานอย่างมากทีเดียว”
       
       เดือนมีนาคมที่ผ่านมา สำนักพระสันตะปาปาเองก็ตกเป็นข่าวครึกโครม เมื่อศาลพิพากษาว่านักร้องประสานเสียงในโบสถ์คนหนึ่งจัดหาชายขายบริการให้กับคนรับใช้ของพระสันตะปาปา