เจาะลึก เอชพี เบียด เดลล์ ชิงดำเทคโอเวอร์กิจการ 3PAR

[น่ารักสุดๆ]

เจาะลึก เอชพี เบียด เดลล์ ชิงดำเทคโอเวอร์กิจการ 3PAR

สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- ศุกร์ที่ 3 กันยายน 2553 13:46:09 น.
ฮิวเลตต์-แพคการ์ด (เอชพี) ประกาศความเป็นผู้ชนะเหนือคู่แข่งรายสำคัญอย่าง เดลล์ อิงค์ ในการเข้าเทคโอเวอร์กิจการ 3PAR Inc ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลของสหรัฐ เมื่อวานนี้ (2 ก.ย.) หลังจากผลัดกันรุกผลัดกันรับในตลอดระยะเวลา 18 วันของการยื่นข้อเสนอเทคโอเวอร์

เวนดี้ ฉี จากสำนักข่าวซินหัว ได้จัดทำบทวิเคราะห์เจาะลึกในเรื่องนี้ โดยระบุว่าเดิมทีนั้น เอชพียื่นราคาเสนอซื้อที่ราว 2.35 พันล้านดอลลาร์ เหนือกว่าเดลล์ที่ยื่นข้อเสนอเพียง 1.15 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งหมายความว่าข้อเสนอของเอชพีสูงกว่าถึง 73% กระทั่งล่าสุดเมื่อวานนี้ เอชพีเทหน้าตักทุ่มซื้อด้วยราคา 33 ดอลลาร์ต่อหุ้น สูงกว่าราคาปิดตลาดของหุ้น 3PAR ที่ 9.65 ดอลลาร์ต่อหุ้น อยู่กว่า 300%

บริษัทไอทียักษ์ใหญ่ทั้ง 2 ผลัดกันรุกผลัดกันรับในการยื่นข้อเสนอมาตลอดระยะเวลา 18 วัน โดยมีเป้าหมายที่จะครอบครอง 3PAR เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการจัดเก็บข้อมูลระบบ "cloud computing" โดยทั้งเอชพีและเดลล์ต่างแสดงความสนใจที่จะขยายการให้บริการในกลุ่มลูกค้าองค์กร และขยายขอบข่ายระบบ cloud computing ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการประมวลผลแบบยืดหยุ่นตามการใช้งาน ต่างจากเทคโนโลยีแบบเดิมที่ต้องจำกัดตามความสามารถของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีอยู่ โดยผู้ใช้สามารถระบุความต้องการไปยังซอฟต์แวร์พิเศษเพื่อให้ระบบจัดสรรทรัพยากรและบริการเสมือนให้ตรงกับความต้องการ สิ่งที่เกิดขึ้นจะทำให้องค์กรสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้เพราะไม่ต้องเสียงบประมาณไปกับการจัดหาทรัพยากรที่ไม่ได้ใช้งานจริง

ในรายงานประจำปีงบการเงิน 2553 ของเดลล์นั้น ฝ่ายบริหารของเดลล์ระบุว่า การให้บริการเทคโนโลยี cloud computing ในเซิร์ฟเวอร์และโซลูชั่นเครือข่ายของลูกค้ากลุ่มองค์กร ขยายตัวด้วยเลขสองหลัก ขณะที่รายได้จากการให้บริการดังกล่าวยังคงทรงตัวจากปีก่อนหน้านี้

ในขณะที่รายงานการวิเคราะห์รายไตรมาสล่าสุดของเอชพี ระบุว่า ผู้บริหารของเอชพีได้ชี้แจงรายละเอียดของการเข้าซื้อกิจการบริษัท Fortify ซึ่งเป็นบริษัทความมั่นคงด้านไอที เพื่อเพิ่มแพลทฟอร์มเทคโนโลยี cloud computing

3PAR ได้รับการยอมรับว่าเป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการจัดการข้อมูลในระบบ cloud computing อย่างมาก นอกจากนี้ ประสิทธิภาพในการจัดเก็บของมูลของ 3PAR สะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มการเติบโตของระบบคอมพิวเตอร์เสมือนจริง (virtualization) ในอุตสาหกรรมไอที จึงทำให้ทั้งเอชพีและเดลล์ต่างชิงกันเป็นหนึ่งด้านเทคโนโลยี cloud computing ซึ่งจะมีอิทธิพลอย่างยิ่งในวงการไอทีในวันข้างหน้า เพราะหากฝ่ายใดสามารถเทคโอเวอร์กิจการ 3PAR ได้ ก็จะนำหน้าอีกฝ่ายหนึ่งไปอีกหลายก้าว

ทั้งเอชพีและเดลล์ต่างก็มีเงินสดมากพอที่จะรุกซื้อกิจการ 3PAR แต่สถานการณ์ดังกล่าวสร้างความวิตกกังวลให้กับนักลงทุนจำนวนมาก โดยเมื่อวันอังคารที่ 31 ส.ค.ที่ผ่านมา สถาบันจัดอันดับความเชื่อถือ สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) ได้ปรับลดอันดับความน่าลงทุนของหุ้นเดลล์ลงสู่ระดับ "sell" จากระดับ "hold" โดยระบุว่าเดลล์อาจจจะต้องแข่งขันกับข้อเสนอของเอชพีอีกหลายครั้ง ซึ่งในวันดังกล่าวนั้น ข้อเสนอของเดลล์อยู่ที่ 2 พันล้านดอลลาร์ หรือ 30 ดอลลาร์ต่อหุ้น

ราจัน ชานดราส บรรณาธิการ IntelligentEnterprise.com กล่าวให้สัมภาษณ์กับซินหัวว่า "ทั้งเดลล์และเอชพีต่างก็ยื่นข้อเสนอซื้อ 3PAR ในราคาที่สูงลิ่วเกินไป เอชพีซึ่งกระเป๋าหนักกว่าก็อาจจะมีผลกระทบด้านการเงินน้อยกว่าเมื่อพิจารณาจากต้นทุนการเข้าซื้อ"

หากเดลล์สามารถซื้อ 3PAR ได้ ก็จะทำให้เดลล์ก้าวขึ้นเป็นผู้ให้บริการระบบโซลูชันสำหรับองค์กร ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางที่เดลล์วางไว้ โดยเดลล์พยายามก้าวข้ามการเป็นบริษัทผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ มาเป็นผู้ให้บริการระบบโซลูชันอย่างเต็มตัว และการซื้อ 3PAR จะทำให้เดลล์อยู่ในสถานะที่สามารถแข่งขันกับเอชพีได้ดีขึ้น ในขณะที่เอชพีเชื่อมั่นว่า จะสามารถสร้างความเข้มแข็งและผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวแก่ผู้ถือหุ้นเอชพี นอกจากนนี้ 3PAR จะช่วยให้บริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์รายใหญ่อย่างเอชพีสามารถเสริมความแข็งแกร่งธุรกิจบริการที่เกี่ยวกับ cloud computing ได้แบบก้าวกระโดด

ก่อนที่เอชพีจะประกาศชัยชนะในการเข้าซื้อกิจการ 3PAR เมื่อวานนี้นั้น นักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่า เอชพีจะสามารถเบียดเอาชนะเดลล์ในการซื้อ 3PAR ได้ และในที่สุด เอชพีก็สามารถครอบครองบริษัทจัดเก็บข้อมูลอย่าง 3PAR ได้ด้วยราคาเสนอซื้อสูงถึง 33 ดอลลาร์ต่อหุ้น มากกว่าเดลล์ที่เสนอซื้อ 32 ดอลลาร์ต่อหุ้น

"เอชพีจะได้ประโยชน์จากประสบการณ์และความเชี่ยวชาญของ 3PAR ผมเชื่อว่าการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้จะสร้างเสถียรภาพที่แข็งแกร่งให้กับเอชพี" ชานดราสกล่าว

รายงานระบุว่า ในช่วง 4 ปีที่ผ่านมานั้น ตัวเลขการใช้จ่ายในการวิจัยและพัฒนา (R&D) ของเอชพี ร่วงลงมากกว่า 21% ขณะที่ยอดขายโดยรวมในช่วงเวลาดังกล่าวเพิ่มขึ้นเกือบ 25% ส่วนตัวเลขการใช้จ่ายด้าน R&D ของ 3PAR พุ่งขึ้นเกือบ 2 เท่าในช่วง 4 ปีที่ผ่านมา ในขณะที่ยอดขายทะยานขึ้นเกือบ 200%

ทั้งนี้ การซื้อขายหุ้นเดลล์ เอชพี และ 3PAR ที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้นั้น ราคาหุ้นทั้ง 3 ตัวปิดตลาดในแดนบวก

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช/ปนัยดา