header-banner

TARADTHONG.COM

Copy Code แปะที่เว็บไซต์คุณ

ตลาดทอง.COM

 

Copy Code แปะที่เว็บไซต์คุณ

ความเหลื่อมล้ำทางสังคมในจีน ปัญหาใหญ่ที่รอการพัฒนา

ตลาดทอง-ราคาทอง-ทองคำแท่ง-ร้านทองตลาดทอง-ร้านทอง-ทองคำแท่ง-goldตลาดทอง-ร้านทอง-ราคาทอง-goldตลาดทอง-ราคาทอง-gold

ไม่ขออะไรมาก..ขอเพียงโหวตให้กำลังใจคนทำเว็บ

ความเหลื่อมล้ำทางสังคมในจีน ปัญหาใหญ่ที่รอการพัฒนา

 

กรมส่งเสริมการส่งออก -- อังคารที่ 25 พฤษภาคม 2553 17:29:55 น.

ผลสำเร็จของนโยบายปฎิรูปเศรษฐกิจจีนตลอด 30 ปีที่ผ่านมา เป็นที่ประจักษ์และยอมรับกันทั่วไปในปัจจุบัน จากตัวเลข GDP เฉลี่ยต่อประชากรปี 1979 คนละ 417 หยวน เพิ่มขึ้นเป็น 3,603 เหรียญสหรัฐในปี 2009 และคาดการณ์ว่าในปี 2010 จะยังสามารถสูงได้ถึง 4,000 เหรียญสหรัฐ รายงานการจัดอันดับจำนวนเศรษฐีจีนในปี 2008 มีจำนวน 3.64 แสนคน มากเป็นอันดับ 4 ของโลก แต่ขณะเดียวกันปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคมก็ปรากฎเด่นชัดขึ้นเป็นเงาตามตัว

 

การประชุม "สองสภา" ประจำปี 2010 ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรี นายเวิน เจียเป่า ได้กล่าวในขณะรายงานผลการบริหารประเทศว่า "จีนต้องปฎิรูประบบการจัดสรรรายได้ พวกเราไม่เพียงจะต้องพัฒนาเศรษฐกิจซึ่งเสมือนการทำเค้กแห่งความมั่งคั่งก้อนนี้ให้ใหญ่ขึ้น แต่ยังต้องปฎิรูประบบจัดสรรเพื่อให้เค้กชิ้นนี้แบ่งกันได้อย่างเท่าเทียมสมเหตุสมผล"  การสร้างความมั่งคั่ง และการจัดสรรความมั่งคั่ง เป็นปัญหา 2 ด้านในเรื่องเดียวกันคือความมั่งคั่งร่วมกัน บริบทสังคมจีนในปัจจุบัน จะสร้างกลุ่มคนมั่งคั่งเพิ่มได้อย่างไร กลุ่มคนใดในสังคมจะได้รับความมั่งคั่งก่อน ความมั่งคั่งร่วมกันในแบบฉบับของจีนเป็นอย่างไร เป็นประเด็นที่สาธารณชนให้ความสนใจเป็นอย่างยิ่ง ล่าสุดวารสารRenMin LunTan ประเทศจีนได้ทำการสำรวจเรื่อง กลุ่มคนมั่งคั่งต่อไปคือกลุ่มคนใด โดยออกแบบสอบถามประชาชนจำนวน 13,298 คนได้ผลดังนี้

กับคำถามที่ว่ามาตรวัดความมั่งคั่งคืออะไร ร้อยละ 56.5 ตอบว่า มีบ้าน มีรถ มีเงินออม มีหลักประกันความมั่นคง จึงเรียกได้ว่ามั่งคั่งร้อยละ 46.7 ตอบว่าต้องมีรายได้ต่อปี 1.5 แสนหยวนขึ้นไป และมีรายได้จากทางสินทรัพย์ที่มั่นคง ร้อยละ 38.7 ตอบว่ามีรายได้ต่อปี 7 หมื่นหยวนขึ้นไปที่พอจะซื้อบ้านได้ ไปหาหมอได้ ส่งลูกเรียนได้ ไม่ต้องกังวลต่อการดำรงชีวิต

กับคำถามที่ว่า กลุ่มคนใดจะเป็นกลุ่มคนมั่งคั่งต่อไป ร้อยละ 51.8 ตอบว่ากลุ่มคนที่มีทักษะทางการตลาด และการบริหารธุรกิจ ร้อยละ 46.8 ตอบว่า กลุ่มคนพิเศษ เช่นทายาทเศรษฐี และทายาทการเมือง ร้อยละ 43.5 ตอบว่า กลุ่มคนที่มีการศึกษาสูง

คำถามในเรื่องการสร้างความมั่งคั่งร่วมกันในแบบฉบับของจีนเป็นอย่างไร ร้อยละ 67.8 ตอบว่า ต้องสร้างความยุติธรรมในการแข่งขัน กำจัดอำนาจผูกขาดและอำนาจพิเศษต่างๆ  ร้อยละ 53.5 ตอบว่า ต้องพัฒนาระบบกฎหมายให้สมบูรณ์ เป็นหลักประกันการปกป้องสิทธิอันชอบธรรมของผู้สร้างงาน ร้อยละ 49.7 ตอบว่าต้องปรับโครงสร้างการจัดสรร ร้อยละ43.9 ตอบว่าต้องมุ่งมั่นพยายามต่อสู้เอง

ส่วนคำถามที่ว่ากลุ่มคนมั่งคั่งในปัจจุบันคือใคร กว่าร้อยละ 40 ตอบว่า ผู้บริหารบริษัทรัฐวิสาหกิจ เจ้าของธุรกิจเอกชนที่ประสบความสำเร็จ ดารานักแสดง

และคำถามที่ว่านโยบายการปฎิรูประบบจัดสรรในปี 2010 ที่รอคอยคือใคร ร้อยละ 65.4 ตอบว่าให้ปฎิรูปการจัดสรรรายได้ในกิจการที่ผูกขาดร้อยละ 59.7 ตอบว่าให้สร้างกลไกปรับเพิ่มเงินเดือนพนักงานที่สมบูรณ์ ร้อยละ 56.3 ตอบว่า การจัดสรรงบประมาณของรัฐมาใช้ในโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนให้มากยิ่งขึ้น

ศาตราจารย์เซี่ยะ จื้อเชียง อาจารย์ประจำวิทยาลัยคอมมิวนิสต์ส่วนกลางประเทศจีน กล่าวว่า การสร้างกลไกปรับเพิ่มเงินเดือนพนักงานที่สมบูรณ์ เป็นเรื่องที่สำคัญในตอนนี้ โครงสร้างสังคมจีนในปัจจุบันไม่ใช่ลักษณะพึงประสงค์ กล่าวคือมีกลุ่มคนมั่งคั่งจำนวนน้อย และกลุ่มคนจำนวนมากก็ยังเป็นผู้มีรายได้ต่ำอยู่ ส่วนกลุ่มชนชั้นกลางซึ่งมีจำนวนร้อยละ 18 ก็ยังไม่ได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้น  การสร้างกลไกปรับเพิ่มเงินเดือนพนักงานที่สมบูรณ์ เพื่อพัฒนาโครงสร้างสังคมลักษณะรูปลูกรักบี้ เป็นเรื่องที่จำเป็นต้องรีบทำในการปฎิรูประบบจัดสรรในปี 2010 นี้

ระบบการจัดสรรรายได้ ระบบประกันสังคม  แนวทางการใช้งบประมาณของรัฐ เป็น 3 ตัวขับเคลื่อนที่สำคัญในการลดช่องว่างทางรายได้ และลดความเหลื่อมล้ำทางสังคม เป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญของการปฎิรูป เพื่อเป้าหมายอันยิ่งใหญ่ของการสร้างความมั่งคั่งอย่างเท่าเทียมและทั่วถึงในสังคมจีน  แปลและสรุปจาก: Chengdu Business News , 6 May 2010

สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ นครเฉิงตู

ขอขอบคุณ

พันธมิตรหลัก

Cocktailpro.co

agaligold.com

AyothayaHotel.com

www.thaimitr.com

www.naresuan.com

ล็อกอิน

www.thaimith.com