TARADTHONG.COM
เมษายน 24, 2024, 03:49:41 AM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: ตลาดทองดอทคอม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  

Copy Code


หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: คัมภีร์พุทธศาสนาที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ถึงไทยแล้ว  (อ่าน 4019 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
loveyou
Administrator
Full Member
*****

คะแนนความนิยม: 29
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 234



ดูรายละเอียด
« เมื่อ: พฤศจิกายน 09, 2010, 09:51:27 PM »

คัมภีร์พุทธ2พันปี อัญเชิญมายังไทย (ไทยโพสต์)

          อัญเชิญพระไตรปิฎกโบราณ อายุกว่า 2 พันปีที่ถือเป็นคัมภีร์พุทธศาสนาที่เก่าแก่ที่สุดในโลก นอร์เวย์ให้ไทยยืมมาประดิษฐานที่พุทธมณฑล เปิดให้ศาสนิกชนได้เคารพบูชาเนื่องในวโรกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาในหลวงครบ 7 รอบ

          ที่ห้องรับรองบุคคลทั่วไป ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 09.09 น. วันที่ 8 พฤศจิกายนนี้ นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นผู้แทนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ร่วมพิธีเจริญชัยมงคลคาถาและอัญเชิญธรรมเจดีย์คัมภีร์ หรือพระไตรปิฎกโบราณ อายุกว่า 2,000 ปี จากประเทศนอร์เวย์ โดยมีบุคคลสำคัญ คณะสงฆ์ ประชาชนเข้าร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก

          พิธีอัญเชิญธรรมเจดีย์เริ่มด้วยนายนิพิฏฐ์ และนางคัทยา คริสทีนา โนร์ดการ์ด เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรนอร์เวย์ประจำประเทศไทย ถวายนมัสการธรรมเจดีย์ จากนั้นนางคัทยาได้กล่าวถึงการค้นพบและกล่าวมอบธรรมเจดีย์มาประดิษฐานที่ประเทศไทย 






          นายนิพิฏฐ์กล่าวต้อนรับว่า วันนี้นับเป็นวันมหามงคล และเป็นวันที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อีกวันหนึ่งของโลก เป็นวันจัดพิธีรับธรรมเจดีย์พระคัมภีร์พุทธศาสนาโบราณอันศักดิ์สิทธิ์มาประดิษฐานและจัดแสดง ณ อาคารพิพิธภัณฑ์ทางพุทธศาสนา พุทธมณฑล อ.ศาลายา จ.นครปฐม เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในวโรกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 5 ธันวาคม 2554 อีกทั้งยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์ไทย-นอร์เวย์ ซึ่งมีความสัมพันธ์อย่างแนบแน่นมากว่า 100 ปี นับแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินเยือนนอร์เวย์เป็นครั้งแรก

          รมว.วัฒนธรรมกล่าวว่า การอัญเชิญธรรมเจดีย์มาสู่ประเทศไทยในครั้งนี้ ถือว่ามีความสำคัญยิ่งต่อประเทศไทยและพุทธศาสนิกชนทั่วไป ที่จะได้สักการะธรรมเจดีย์ซึ่งเปรียบเสมือนตัวแทนแห่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และจะได้ศึกษาเรื่องราวแห่งพระธรรมคำสั่งสอนจากนิทรรศการที่จะได้จัดให้มีขึ้นต่อไป

          จากนั้น พระพรหมเมธี เจ้าอาวาสวัดเทพศิรินทราวาสราชวรวิหาร กรรมการมหาเถรสมาคม ปฏิบัติหน้าที่คณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ประธานฝ่ายสงฆ์ นำคณะสงฆ์สวดเจริญพุทธมนต์ นายนิพิฏฐ์รับมอบธรรมเจดีย์จากเอกอัครราชทูตราชอาณาจักรนอร์เวย์ประจำประเทศไทย เพื่อถวายแด่พระธรรมสิทธินายก ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร เป็นผู้อัญเชิญธรรมเจดีย์เข้าสู่ขบวนแห่ซึ่งสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติได้จัดเตรียมไว้อย่างสมเกียรติ 

          จากนั้นอัญเชิญขึ้นประดิษฐานบนรถบุษบก เดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิมุ่งหน้าสู่พุทธมณฑล จ.นครปฐม ซึ่งธรรมเจดีย์จะตั้งประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ระหว่างวันที่ 8 พฤศจิกายน 2553 ถึงวันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2554 โดยจะเปิดให้ประชาชนทั่วไปเข้าชมและสักการบูชาเพื่อเป็นสิริมงคล และเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 84 พรรษา

          ธรรมเจดีย์ดังกล่าว พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี และนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้เดินทางไปรับมอบจากสถาบันอนุรักษ์สเคอร์เยน มหาวิทยาลัยออสโล ประเทศนอร์เวย์ มาถึงประเทศไทยในเช้าวันที่ 8 พ.ย. ทั้งนี้ ธรรมเจดีย์ถือเป็นต้นกำเนิดพระไตรปิฎก พระคัมภีร์พุทธศาสนาโบราณที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ถูกค้นพบก่อนสงครามจะเกิดขึ้นในถ้ำบริเวณเทือกเขาบามิยัน ตั้งอยู่ห่างประมาณ 2 กม. จากพระพุทธรูปหินบามิยันสูง 53 เมตร ที่ถูกทำลายในปี พ.ศ.2544 ในอดีตดินแดนแถบนี้ชื่อว่าคันธารราฐ อยู่บนเส้นทางสายไหม เคยเจริญรุ่งเรืองด้วยพุทธศาสนา และปัจจุบันดินแดนแถบนี้เรียกว่าประเทศอัฟกานิสถาน
     
          สถาบันอนุรักษ์สเคอร์เยน ประเทศนอร์เวย์ ได้คัมภีร์โบราณชุดแรกในปี พ.ศ.2539 จากพ่อค้าของเก่าซัมฟ็อก กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ และได้วางแผนการขนย้ายคัมภีร์ทุกวิถีทาง ในช่วงปี พ.ศ.2540-2543 (ในปี พ.ศ.2544 ถ้ำแถบเทือกเขาบามิยันได้ถูกระเบิดทำลายจนหมดสิ้น รวมทั้งองค์หลวงพ่อบามิยันสูง 50 เมตร) ปัจจุบันสถาบันสามารถอนุรักษ์คัมภีร์โบราณไว้ได้ประมาณ 5,000 ชิ้นที่ยังเป็นชิ้นส่วนสมบูรณ์และแตกหักเล็กน้อย และส่วนที่เศษชิ้นเล็กๆ อีกประมาณ 8,000 ชิ้น ทั้งหมดมีอายุระหว่างพุทธศตวรรษที่ 6-12 การจารึกทำไว้ในใบลาน เปลือกไม้ หนังสัตว์และแผ่นทองเหลือง 
               
          นักโบราณคดีและภาษาศาสตร์นานาชาติใช้เวลา 12 ปีทำการชำระคัมภีร์โบราณ โดยสันนิษฐานสรุปว่าเป็นผลงานของพระอรหันต์ที่ได้จารึกพระธรรมวินัยเป็นตัวอักษรในราวพุทธศตวรรษที่ 6 หรือประมาณร่วม 2,000 ปีล่วงมาแล้ว


บันทึกการเข้า

รักนะ...จุ๊บ จุ๊บ
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


Powered by MySQL Powered by PHP Valid XHTML 1.0! Valid CSS!