ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ราคาทองคำปรับตัวขึ้นในวันนี้ จากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้,ความไม่แน่นอนของสงครามการค้ายังสนับสนุนราคา
ราคาทองคำปรับตัวขึ้นในวันนี้ จากการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้,ความไม่แน่นอนของสงครามการค้ายังสนับสนุนราคา
ราคาทองคำปรับตัวขึ้นใกล้ระดับสูงสุดในรอบ15เดือนในวันอังคารเนื่องจากการเดิมพันที่เพิ่มขึ้นว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ(FED)จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย และนอกจากนี้ราคาทองคำยังได้ปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของดอลลาร์
"ดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง จะเพิ่มความน่าดึงดูดของทอง โดยทำให้สัญญาทองมีราคาถูกลงสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น"
ขณะที่นักลงทุนซื้อขายอย่างระมัดระวัง ท่ามกลางความวิตกต่อการที่สหรัฐเตรียมเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกและก่อนการรายงานตัวเลขนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯในวันศุกร์นี้
นายเจมส์ บูลลาร์ด ประธานเฟด สาขาเซนต์หลุยส์ กล่าวว่า เฟดจำเป็นต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ เพื่อกระตุ้นเงินเฟ้อ และรับมือกับความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะเผชิญภาวะขาลง อันเนื่องมาจากการทำสงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น
ส่วนนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวว่า เฟดกำลังจับตามองพัฒนาการทางเศรษฐกิจในขณะนี้ และจะดำเนินการในสิ่งที่ต้องทำเพื่อให้การขยายตัวทางเศรษฐกิจดำเนินต่อไป
นอกจากนี้ นายพาวเวลยังเปิดเผยว่า เครื่องมือที่เฟดเคยใช้ในช่วงที่เกิดวิกฤตการณ์ ซึ่งได้แก่ การกำหนดให้อัตราดอกเบี้ยอยู่ใกล้ 0% และการเข้าซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) มีแนวโน้มที่จะนำมาใช้อีกครั้งหนึ่ง
FedWatch ซึ่งเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาฟิวเจอร์อัตราดอกเบี้ยสหรัฐของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาส 90% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายนและมีโอกาสมากกว่า 80% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนธันวาคม
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ระบุว่า การเจรจาระหว่างสหรัฐและเม็กซิโกมีความคืบหน้าไม่มากพอ ในประเด็นการลดจำนวนการหลั่งไหลของผู้อพยพผิดกฎหมาย และการลักลอบนำเข้ายาเสพติดจากเม็กซิโก ซึ่งทำให้สหรัฐจะดำเนินการปรับขึ้นภาษีต่อสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกในสัปดาห์หน้า
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สหรัฐและเม็กซิโกได้เสร็จสิ้นการหารือกันที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ โดยทั้งสองฝ่ายไม่สามารถบรรลุข้อตกลงในประเด็นการค้า และประเด็นผู้อพยพ ขณะที่การเจรจาจะเริ่มขึ้นอีกครั้งในวันนี้
เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคมที่ผ่านมา ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ประกาศเรียกเก็บภาษีต่อสินค้าทั้งหมดที่นำเข้าจากเม็กซิโกในอัตรา 5% โดยจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายนและจะเพิ่มขึ้นทุกเดือนจนแตะระดับ 25% ในวันที่ 1 ตุลาคมถ้าเม็กซิโกไม่สามารถสกัดการหลั่งไหลของผู้อพยพผิดกฎหมายที่ข้ามพรมแดนเข้าสู่สหรัฐฯ
นักลงทุนกำลังเฝ้าติดตามตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐฯประจำเดือนพฤษภาคมในวันศุกร์นี้อย่างใกล้ชิดหลังจากตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนประจำเดือนพฤษภาคมออกมาอย่างน่าผิดหวังเพื่อตรวจสอบเบาะแสและแนวโน้มทางเศรษฐกิจซึ่งจะส่งผลต่อการดำเนินนโยบายด้านการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ