ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นกว่าห้าปีหลังจากเฟดเปิดประตูสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย,ความต้องการสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
ราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นกว่าห้าปีหลังจากเฟดเปิดประตูสำหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย,ความต้องการสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
ราคาทองคำพุ่งขึ้นสู่ระดับที่ไม่เห็นมานานกว่า 5 ปี หลังจากการประชุมของธนาคารสหรัฐฯเมื่อวันพุธที่ธนาคารกลางสหรัฐประกาศคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม แต่ยังเปิดช่องทางให้มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคตอีกด้วย
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ10ปีของสหรัฐลดลงต่ำกว่า 2% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2559 ซึ่งต่ำกว่าระดับจิตวิทยาที่สำคัญ
นักวิเคราะห์ชี้ว่าราคาทองคำพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อเทียบกับดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่ลดลงหลังแถลงการณ์เฟด
ราคาทองได้รับปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (FED) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) รวมถึงธนาคารกลางอื่นๆส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยหรือคงอัตราดอกเบี้ยไว้ในระดับต่ำ
ในขณะเดียวกันนักลงทุนพากันเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างสหรัฐและอิหร่าน
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ทวีตข้อความในวันนี้ ระบุว่า อิหร่านได้ทำความผิดพลาดครั้งใหญ่ หลังจากที่ได้ยิงโดรนของสหรัฐตกเมื่อวานนี้
ต่อข้อถามของผู้สื่อข่าวที่ว่า สหรัฐจะทำการโจมตีอิหร่านหรือไม่ ปธน.ทรัมป์กล่าวว่า "คุณจะรู้เองในไม่ช้า"
กองทัพสหรัฐเปิดเผยว่า โดรนของทางกองทัพได้ถูกขีปนาวุธของอิหร่านโจมตี ขณะบินอยู่เหนือน่านฟ้าสากลบริเวณช่องแคบฮอร์มุซ ขณะที่กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามของอิหร่าน (IRGC) ได้ออกมาตอบโต้ว่า โดรนดังกล่าวถูกยิงในน่านฟ้าของอิหร่านทางตอนใต้ของประเทศ
เหตุการณ์ดังกล่าวได้เพิ่มความตึงเครียดต่อความสัมพันธ์ของประเทศทั้งสอง หลังจากเกิดเหตุโจมตีเรือบรรทุกน้ำมัน 2 ลำเมื่อสัปดาห์ที่แล้วใกล้ช่องแคบฮอร์มุซ
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา สหรัฐได้ส่งกำลังทหารอีก 1,000 นายไปยังตะวันออกกลาง หลังจากที่ได้ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิด B-52 ไปยังภูมิภาคดังกล่าว
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีดิ่งลงต่ำกว่า 2% เป็นครั้งแรกในรอบ 31 เดือน หลังจากที่เฟดได้ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมวานนี้ พร้อมกับส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งปีหลัง
ทั้งนี้ เฟดได้ส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ ท่ามกลางความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจ และการคาดการณ์เงินเฟ้อที่ลดลง
คณะกรรมการเฟดทั้งหมด 17 ราย จำนวนเกือบครึ่งหนึ่งสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วง 6 เดือนข้างหน้า โดย 7 รายสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% จำนวน 2 ครั้งก่อนสิ้นปีนี้ ขณะที่ 1 รายสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% จำนวน 1 ครั้ง และ 1 รายสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% จำนวน 1 ครั้ง ส่วนอีก 8 รายคาดว่าไม่มีการปรับอัตราดอกเบี้ย
โดยในแถลงการณ์เฟดระบุว่า เฟดจะดำเนินการตามความเหมาะสม เพื่อรักษาการขยายตัวทางเศรษฐกิจให้ดำเนินต่อไป ขณะที่เศรษฐกิจกำลังมีการขยายตัวติดต่อกันเป็นปีที่ 10