แนะเคล็ด(ไม่)ลับประเมินราคาทองคำและการกำหนดราคา Gold Futures
ไม่ขออะไรมาก..ขอเพียงโหวตให้กำลังใจคนทำเว็บ
แนะเคล็ด(ไม่)ลับประเมินราคาทองคำและการกำหนดราคา Gold Futures
ทองคำเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีการซื้อขายในตลาดโลกประมาณ 3,500 ตันต่อปี โดยมีความต้องการมาจากการใช้เป็นเครื่องประดับ 68% ของความต้องการทั้งหมด จากภาคอุตสาหกรรมและการแพทย์ 13% จากการลงทุนหรือสะสมเพื่อสร้างความมั่งคั่ง 12% และจากการลงทุนใน Exchange Traded Fund (ETF) อีก 7% ส่วนด้านอุปทานในตลาดโลกนั้น มาจากการผลิตจากเหมืองทองคำประมาณ 58% ของอุปทานทั้งหมด จากการขายออกมาของธนาคารกลางประเทศต่าง ๆ 14% และจากการนำทองคำเก่าไปหลอมใหม่อีก 28%
ทั้งนี้ จากสถิติที่ผ่านมา พบว่าราคาทองคำมีความสัมพันธ์กับราคาน้ำมันถึง 31% และอาจมีความสัมพันธ์สูงถึง 50% กับดัชนีราคาสินค้าโภคภัณฑ์ โดยปัจจัยที่มีผลต่อราคาทองคำ มีดังนี้
1. ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ โดยหากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนตัวลง ก็จะทำให้ราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้น และหากเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่า ก็จะมีผลให้ราคาทองคำลดลง
2. ความกังวลเรื่องอัตราเงินเฟ้อ หากอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น จะทำให้นักลงทุนหันมาลงทุนในทองคำที่มีความเสี่ยงต่ำแทนตลาดพันธบัตร
3. ปัญหาการเมืองระหว่างประเทศ หากนักลงทุนไม่มั่นใจต่อสถานการณ์การเมืองระหว่างประเทศ หรือเกิดสงครามขึ้นในกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน ก็จะทำให้นักลงทุนไม่กล้าเข้ามาลงทุนในตลาดทุน และหันไปลงทุนในทองคำแทน ซึ่งจะมีผลให้ราคาทองคำปรับเพิ่มขึ้น
4. ปริมาณอุปสงค์และอุปทาน เนื่องจากความต้องการทองคำในตลาดโลกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศเกิดใหม่ เช่น จีน และอินเดีย และยังมีอุปสงค์จากการเปิดซื้อขาย Gold ETF ในขณะที่อุปทานทองคำยังไม่เพิ่มขึ้น จึงมีผลต่อราคาทองคำในระยะหลังด้วย
นอกจากนี้ ราคาทองคำในประเทศยังเคลื่อนไหวเป็นวัฏจักรอีกด้วย เช่น ก่อนวันตรุษจีนที่มีการซื้อขายทองคำมาก ก็จะทำให้ราคาทองคำสูงขึ้น ส่วนในช่วงก่อนเปิดเทอมที่ผู้ปกครองจะมีค่าใช้จ่ายสำหรับลูกสูงมาก ก็อาจต้องขายทองคำออกมาจนกดดันให้ราคาทองคำในประเทศปรับตัวลดลงได้เช่นกัน นอกจากนี้ หากเงินบาทอ่อนตัวลงก็จะมีผลให้ทองคำมีราคาสูงขึ้น เพราะราคาทองคำในประเทศจะคำนวณมาจากราคาทองคำในรูปดอลลาร์สหรัฐ
การวิเคราะห์ราคา Gold Futures สามารถทำได้ 2 วิธี คือ
- วิเคราะห์ราคาด้วยปัจจัยพื้นฐาน เช่น ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ อัตราเงินเฟ้อของโลก ความเสี่ยงด้านการเมือง ตลอดจนอุปสงค์และอุปทานทองคำในตลาดโลก ซึ่งจะมีผลต่อราคาทองคำในระยะยาว
- วิเคราะห์ราคาด้วยปัจจัยเทคนิค จะมีหลักเกณฑ์ในการคำนวณเช่นเดียวกับหุ้น โดยราคา Gold Futures จะคำนวณได้จากราคาทองคำที่ซื้อขายในตลาด (Spot Rate) บวกกับต้นทุนทางการเงิน เช่น อัตราดอกเบี้ยและความเสี่ยงจากการลงทุน ซึ่งหากประเมินจากสถานการณ์ในปัจจุบัน Gold Futures ที่มีอายุคงเหลือ 1 เดือนจะต้องมีราคาสูงกว่าราคาทองคำในตลาด 40 บาท Gold Futures ที่มีอายุคงเหลือ 2 เดือนจะต้องมีราคาสูงกว่าราคาทองคำในตลาด 80 บาท และ Gold Futures ที่มีอายุคงเหลือ 3 เดือน จะต้องมีราคาสูงกว่าราคาทองคำในตลาด 120 บาท เป็นต้น แต่หากสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไปก็จะต้องใช้สมมติฐานใหม่ด้วย
การลงทุนใน Gold Futures จะช่วยกระจายความเสี่ยงของพอร์ตการลงทุนได้ เนื่องจากราคาทองคำมีความสัมพันธ์กับตราสารประเภทอื่น ๆ เช่น หุ้นและพันธบัตร น้อยมาก และหากคาดการณ์ได้ว่าราคาทองคำมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ก็สามารถเปิดสถานะ Long Gold Futures ไว้ได้ และยังใช้ในการเก็งกำไรจากความผันผวนของราคาทองคำได้เช่นกัน ส่วนผู้ที่มีทองคำในมือและต้องการลดความเสี่ยงในช่วงที่ราคาทองคำลดลง ก็ยังสามารถเปิดสถานะ Short Futures เพื่อลดความเสี่ยงได้อีกด้วย
ตลาดทอง ขอขอบคุณข้อมูลดีดีจาก : Money Channel
ดูต่อ เรื่อง การซื้อขาย Gold Futures หรือย้อนกลับไป Gold Futures