TARADTHONG.COM
เมษายน 24, 2024, 05:30:42 PM *
ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

เข้าสู่ระบบด้วยชื่อผู้ใช้ รหัสผ่าน และระยะเวลาในเซสชั่น
ข่าว: ตลาดทองดอทคอม
 
   หน้าแรก   ช่วยเหลือ ค้นหา ปฏิทิน เข้าสู่ระบบ สมัครสมาชิก  

Copy Code


หน้า: [1]   ลงล่าง
  พิมพ์  
ผู้เขียน หัวข้อ: ชี้ชีวิตคู่ แค่พอใจ - ไม่ใช่รัก  (อ่าน 3700 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
น่ารักสุดๆ
Administrator
Hero Member
*****

คะแนนความนิยม: 2330
ออฟไลน์ ออฟไลน์

กระทู้: 1658



ดูรายละเอียด เว็บไซต์
« เมื่อ: กรกฎาคม 19, 2010, 08:08:47 PM »

ชี้ชีวิตคู่ แค่พอใจ - ไม่ใช่รัก (ไทยโพสต์)

         นักวิชาการชี้สังคมไทยหย่าร้างพุ่งไม่ใช่ปัญหา แต่เป็นปรากฏการณ์ทางสังคมที่ต้องเข้าใจและปรับตัว สาเหตุสภาพวิถีชีวิตเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง ผู้หญิงมีอิสระและทางเลือกมากขึ้น ไม่ต้องพึ่งผู้ชาย หนุ่มสาวยุคใหม่อยู่ด้วยความพอใจไม่ใช่ความรัก
     
         จากสถิติการจดทะเบียนครอบครัวและการหย่าร้างของคนไทยในปีที่ผ่านมา มีคู่สมรสจดทะเบียน 3 แสนคู่ ซึ่งมีแนวโน้มลดลง แต่การหย่าร้างถึงกลับพุ่งสูงขึ้นเป็น 1 แสนคู่ ทำให้เกิดครอบครัวเลี้ยงเดี่ยวมากขึ้น

         รศ.กฤตยา อาชวนิจกุล รองผู้อำนวยการสถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยว่า การหย่าร้างในคู่ที่จดทะเบียนสมรสที่มีตัวเลขสถิติสูงขึ้นถือเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่ปัญหาสังคม ซึ่งที่ผ่านมาคนส่วนใหญ่เข้าใจผิดว่าการหย่าร้างจะทำให้สังคมเสื่อม ถ้าหากเป็นคู่สมรสที่มีลูกด้วยกันก็จะทำให้เด็กมีปัญหา แต่ข้อเท็จจริงคือ สภาพสังคมไทยเปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง ผู้หญิงสมัยนี้มีความเป็นอิสระสูง มีความเป็นตัวของตัวเอง และมีทางเลือกในการดำเนินชีวิตมากขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งผู้ชาย ก็จำเป็นต้องยุติการครองคู่ แตกต่างจากสมัยก่อน ผู้หญิงหย่าร้างได้ลำบาก อยากจะแยกทางกับผู้ชายก็ทำไม่ได้ เพราะกลัวถูกสังคมตราหน้าหรือไม่ยอมรับ เรื่องนี้สังคมไทยต้องพยายามเรียนรู้และปรับตัวให้ได้

         รอง ผอ.สถาบันวิจัยประชากรและสังคม ม.มหิดล กล่าวอีกว่า ขณะนี้ทั่วโลกเกิดภาวะการหย่าร้างมากขึ้น โดยเฉพาะในประเทศตะวันตกมีการหย่าร้างสูงมาก ปัญหาทางเศรษฐกิจไม่ใช่ปัจจัยหลักของการหย่าร้าง แต่มีหลายปัจจัยด้วยกัน ในทุกวันนี้ผู้หญิงมีมุมมองความคิดเปลี่ยนไปจากเดิม มีความมั่นใจสูงและมีทางเลือกชัดเจน ทำให้การประนีประนอมซึ่งกันและกันลดน้อยลง อีกสาเหตุหนึ่งของการหย่าร้างที่คนไม่ค่อยพูดถึงคือ หย่าร้างกันเฉพาะในทางนิติกรรม แต่พฤติกรรมยังอยู่ร่วมกัน กรณีอาจจะมีเหตุผลในเรื่องของการทำธุรกรรมต่างๆ ซึ่งทั้งสองฝ่ายก็เห็นตกลงกัน

         นพ.ยงยุทธ วงศ์ภิรมย์ศานติ์ ที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต และรองประธานมูลนิธิเครือข่ายครอบครัว กล่าวถึงสาเหตุของการหย่าร้างสูงขึ้นว่า มีพื้นฐานจากปัจจัยหลายด้านคือ สภาพวิถีชีวิตในสังคมปัจจุบันมีความตึงเครียดมากกว่าสมัยก่อน ทำให้คู่สมรสเกิดการระหองระแหงกันได้ง่าย และความสามารถในการตัดสินใจที่จะหย่าร้างของฝ่ายหญิงมีมากขึ้น เพราะมีอิสระและพึ่งพาตนเองได้ เมื่ออยู่ในสภาพที่ไม่จำเป็นต้องอยู่กินด้วยกันก็ตัดสินใจได้ทันที และสถานะในครอบครัวไม่มั่นคง เกิดจากความหวานชื่นลดน้อยลง ซึ่งสิ่งที่ทำให้ชีวิตคู่ยั่งยืนคือ ความรักใคร่ผูกพันและความรับผิดชอบร่วมกัน ซึ่งในช่วงหลังๆ มีน้อยลง ทั้งคู่ไม่เรียนรู้ที่จะเห็นอกเห็นใจกัน ไม่เปิดใจคุยกันทำให้ครอบครัวแตกร้าวได้ง่าย

         นอกจากนี้ การหย่าร้างยังมีสาเหตุจากการที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแอบมีกิ๊ก นอกใจหรือคบชู้ โดยเฉพาะในกลุ่มที่ไม่จดทะเบียนสมรสแล้วเลิกรากันไปนั้น ก็ถือเป็นปัญหาในวัยหนุ่มสาวเลิกง่ายหน่ายเร็ว เพียงแค่พึงพอใจก็อยู่ร่วมกัน แต่ไม่ใช่ความรัก ปัจจัยของการเลิกรากันก็ไม่แตกต่างจากกลุ่มจดทะเบียนสมรส

         "สำหรับคู่สมรสที่มีลูกด้วยกันแล้วหย่าร้าง ก็จะกลายเป็นพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยว ครอบครัวอ่อนแอ ส่งผลให้เด็กเกิดปัญหา เพราะเด็กที่กระทำผิดส่วนใหญ่มาจากครอบครัวเลี้ยงเดี่ยว จากการสำรวจพบเด็กในชั้นเรียนทั่วประเทศอยู่ในครอบครัวเลี้ยงเดี่ยว 10-15% ซึ่งเป็นเรื่องที่สังคมต้องปรับตัวกันครั้งใหญ่" นพ.ยงยุทธกล่าว

         ดร.วัลลภ ปิยะมโนธรรม นักจิตวิทยาชื่อดัง ที่ปรึกษาโครงการศูนย์ให้คำปรึกษาและพัฒนาศักยภาพมนุษย์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) ระบุว่า การหย่าร้างที่สูงขึ้นเป็นอาการหนึ่งของสังคมที่เป็นกันทั่วโลก ผู้หญิงมีความสามารถในการรับผิดชอบตนเองได้โดยไม่ต้องพึ่งผู้ชายและไม่ใช่เรื่องเลวร้าย ถ้าอยู่ด้วยกันไม่ได้หรือไม่มีความสุข ก็ไม่ควรอยู่และตัดสินใจหย่าร้างทันที สมัยก่อนพ่อแม่จะอบรมสั่งสอนให้ลูกรู้จักอดทน และอยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุข ฝ่าฟันอุปสรรคให้ชีวิตคู่ไปตลอดรอดฝั่ง แต่ตอนนี้สังคมไทยอยู่ในโลกสุขนิยม ถ้ามีความทุกข์ไม่เอาเลย ยิ่งในคู่สมรสที่ไม่มีลูกด้วยกันก็ทำให้หย่าร้างกันง่าย

         "การหย่าร้างในสมัยนี้มีปัจจัยทางด้านเพศเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะหนุ่มสาวมีเพศสัมพันธ์กันเร็ว รู้จักกันไม่นานก็มีเซ็กซ์กัน ถ้าหมดความสุขหรือความพึงพอใจเรื่องนี้ก็ทำให้หย่าร้างกัน อีกทั้งการเลี้ยงดูของพ่อแม่แบบตามใจลูกมากเกินไป ก็ทำให้ลูกหลงอยู่ในโลกสุขนิยม เมื่อเติบโตขึ้นก็เป็นคนที่ไม่มีความอดทนต่อภาวะที่ทนได้ยาก" ดร.วัลลภ กล่าวสรุป


บันทึกการเข้า
หน้า: [1]   ขึ้นบน
  พิมพ์  
 
กระโดดไป:  


Powered by MySQL Powered by PHP Valid XHTML 1.0! Valid CSS!