วิกฤตน้ำมันรั่วส่งผลท่องเที่ยวสหรัฐฯ สูญเงินกว่า $2 หมื่นล้าน

[loveyou]

วิกฤตน้ำมันรั่วส่งผลท่องเที่ยวสหรัฐฯ สูญเงินกว่า $2 หมื่นล้าน
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

เอเอฟพี - ผลการศึกษาระบุ มลรัฐทั้ง 5 ของสหรัฐฯ ตามแนวชายฝั่งอ่าวเม็กซิโกอาจสูญเสียรายได้จากาารท่องเที่ยวสูงถึง 22,700 ล้านดอลลาร์ ไปอีก 3 ปีข้างหน้า อันเนื่องมาจากปัญหาน้ำมันของบริษัทบีพีรั่วไหลครั้งใหญ่
       
       การศึกษาโดยออกซฟอร์ด อีโคโนมิกส์ ที่ทำให้กับสมาคมการท่องเที่ยวสหรัฐฯ พบว่า แผนการเดินทางท่องเที่ยวไปยังมลรัฐทั้ง 5 ในอ่าวเม็กซิโก อันได้แก่ แอละแบมา ฟลอริดา ลุยเซียนา มิสซิสซิปปี และเทกซัส มีจำนวนลดลงมากกว่า 10% พร้อมทั้งเตือนว่าการท่องเที่ยวอาจทรุดตัวไปอีกหลายปี
       
       รายงานดังกล่าวระบุว่า การท่องเที่ยวเป็นหนึ่งในตัวกระตุ้นเศรษฐกิจอันดับต้นๆ ของภูมิภาคนี้ ผู้มาเยือนรัฐชายฝั่งอ่าวเม็กซิโกใช้เงินมากกว่า 34,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2008 และยังช่วยสร้างงานอีกราว 400,000 ตำแหน่ง
       
       ทว่า นับตั้งแต่การระเบิดของแท่นขุดเจาะน้ำมันดีปวอเทอร์ ฮอไรซอนของบริษัท บีพี และจมลงสู่ใต้ทะเลนอกชายฝั่งลุยเซียนา โดยทำให้เกิดน้ำมันรั่วไหลลงสู่ทะเลอย่างไม่หยุดหย่อนมาจนถึงขณะนี้ นักท่องเที่ยวจึงหายไปจากภูมิภาคนี้จำนวนมาก
       
       แม้ว่าฝาครอบบ่อน้ำมันล่าสุดน่าจะสามารถยับยั้งการรั่วไหลของน้ำมันลงสู่ทะเลได้แล้ว แต่รายงานฉบับนี้ยังเตือนว่า จำนวนนักท่องเที่ยวจะยังไม่กลับสู่ระดับปกติก่อนเกิดวิกฤตภายในอนาคตอันใกล้นี้
       
       รายการการศึกษาดังกล่าวใช้กรณีตัวอย่างจากภัยพายุเฮอริเคนแคทรีนา ที่ต้องใช้เวลานานกว่า 3 ปี ก่อนที่นักท่องเที่ยวจะกลับเข้านิวออร์ลีนส์มากเท่าก่อนเกิดหายนะอีกครั้ง รวมถึงกรณีน้ำมันบริษัทเอ็กซอน วัลเดซ รั่วไหลในอะแลสกา ซึ่งจำนวนนักท่องเที่ยวลดลงต่ำกว่าระดับปกตินานกว่า 2 ปี
       
       อย่างไรก็ตาม วิกฤตน้ำมันของบีพีรั่วไหล ซึ่งนับว่าเป็นการรั่วไหลครั้งร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ ไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบได้โดยตรงกับหายนะน้ำมันรั่วไหลครั้งอื่นๆ