เห็นว่า คุณ chart pro ฟันธงว่าลงแน่ๆ เลย short ซะมากมาย ทองแท่งที่มีก็ขายหมดเลย คราวนี้ ต้องกำไร

ดีใจเห็นว่าทางคุณ Chart Pro ฟันธงว่าจะลง เลยปล่อยหมดตัวเลย ได้กำไรจิบๆ(หมายความว่า ได้กำไรน้อยมาก ไม่กี่พัน) แต่ก็ยังดีกว่าเจ็บตัว คราวนี้รอจังหวะซื้อ อย่าลืมฟันธงแบบนี้อีกนะครับ

คุณ chart Pro กำลังจะบอกใบ้ว่าทองจะขึ้นใช่ไหม ทำไมไม่บอกก่อนล่ะ ตกขบวนเลยเรา เศร้า

ชอบง่ะ ทั้งเพลง ทั้งคน

เอ้า ใครไม่รู้ยกมือขึ้น

วันนี้เริ่มแล้วใครพนันกับผมบ้าง กระซิบมาได้นะ

ทองสวิงไปมาน่าตกใจสุดๆๆ เหมือนขึ้นรถด่วนเลย แต่ไม่กลัวหรอกได้กำไรมา สี่แสนสองหมื่นแล้ว ไปเที่ยวเมืองนอกมาแล้ว มันก็OK

ตอนนี้กลับมาแล้ว ปรากฏว่าได้กำไรจากครั้งก่อนแค่สองหมื่น ไม่เป็นไรช่วงนี้กอดเงินไว้สักพักก่อน รอคุณ chart pro มาฟันธงจริงๆอีกครั้ง เพราะเห็นกราฟขึ้นๆลงๆเหลือเกิน น่าใจหาย

มารายงานตัวครับ เห็นว่าขึ้นหัวข้อใหม่เพิ่งเข้ามาก็ตกใจนิดหน่อย ตอนนี้อยู่สวิสซูริกเวลาประมาณ4ทุ่มกว่าๆเห็นทองขึ้นก็ตกใจ เอจะได้เงินค่าขนมอีกแล้วหรอเนี่ยพรุ่งนี้ต้องรีบโทรตัด เลยต้องรีบเข้ามาโหวตเว็บเป็นกำลังใจคนทำ วันพฤหัสก็กลับซื้อของมาฝากคุณ chart ซะเพียบต้องขอบคุณเหลือหลายที่ทำให้ข้าน้อยได้กำไร จองตั๋วไปเที่ยวเมืองนอกเมืองนาได้

เมื่อวานได้กำไรมาสี่แสน เย้ๆๆๆ เลยต้องรีบเข้ามาโหวตเว็บเป็นกำลังใจคนทำ พอดีคุณ chart pro ซึ่งก็เป็นคนเดียวอีกเหมือนกัน บอกว่าจะขึ้น ผมเลยเตรียม longไว้ก่อนเสียดายทำน้อยไปนิด เพราะจะเอาเงินไปเที่ยวแแแล้วววววว  อย่างไงก็จะเที่ยวเผื่อครับผม วันจันทร์เจอกัน

ต่อไปนี้ผมจะโหวตให้เว็บทุกวันเลย งานนี้ได้กำไรหลายแสน เดี๋ยวรอคำนวนตัวเลขอีกที ขอบคุณนะครับ
**อยากให้คุณ Chart Pro พูดมากกว่านี้จังงงงงง เอาแบบอ่านแล้วคนงงงง จะได้มีคนอ่านกระทู้นี้เยอะๆไงครับ

บอกตามตรงเลยครับว่าการที่เชื่อคุณ chart pro ไม่ผิดหวังจริงๆ บอกว่าอีกวัน สองวันจะลง ก็ลงจริงๆ ผม short คอยไว้แล้วครับ โชคดีจริงๆ แถมทองคำแท่งก็ปล่อยตอนราคาสูงสุดอีกต่างหาก บอกตรงๆว่าขอบคุณมากครับ

World Today: สรุปข่าวต่างประเทศประจำวันที่ 3 มิถุนายน 2553
สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 3 มิถุนายน 2553 16:49:35 น.
สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 6.0% สู่ระดับ 110.9 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.ปี 2552 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 5.0% เนื่องจากผู้ซื้อบ้านใช้ประโยชน์จากนโยบายลดหย่อนภาษีของรัฐบาล

 -- ออโต้ดาต้า คอร์ป ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยด้านอุตสาหกรรมรถยนต์ในสหรัฐเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดขายรถยนต์ใหม่ในสหรัฐ ซึ่งรวมยอขายของบริษัทผลิตรถยนต์ทุกแห่ง ปรับตัวเพิ่มขึ้น 19.1% ต่อปี สู่ระดับ 1,102,899 ในเดือนพ.ค. ทำสถิติเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 7

-- กระทรวงการคลังของญี่ปุ่นรายงานว่า การใช้จ่ายเงินทุนภาคเอกชนของญี่ปุ่นในทุกภาคอุตสาหกรรมประจำไตรมาสแรกปรับตัวลดลง 11.5% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านี้
-- ประธานาธิบดีบารัค โอบามา แห่งสหรัฐ กล่าวปาถกฐาที่มหาวิทยาลัยคาร์เนกี เมลลอน ในรัฐเพนซิลวาเนียว่า ปัญหาน้ำมันรั่วไหลในอ่าวเม็กซิโกจนทำให้เกิดหายนะทางระบบนิเวศครั้งใหญ่ในสหรัฐนั้น ทำให้สภาคองเกรสจำเป็นต้องเร่งบังคับใช้กฎหมายด้านพลังงาน รวมถึงการชะลอการบังคับใช้กฎหมายลดหย่อนภาษีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สำหรับบริษัทพลังงาน และสนับสนุนการลงทุนพลังงานทางเลือกใหม่
-- บริษัท เอ็กซ์สตราต้า ซึ่งเป็นผู้ส่งออกถ่านหินพลังงานที่เกี่ยวกับความร้อนรายใหญ่สุดของโลก ได้ระงับการใช้จ่ายในโครงการถ่านหินและทองแดงในประเทศออเตรเลียมูลค่า 586 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือ 495 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากรัฐบาลได้เสนอมาตรการจัดเก็บภาษีจากกำไรในการทำเหมือง
-- สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลียเปิดเผยในวันนี้ว่า ยอดส่งออกเดือนเม.ย.ที่ไม่นับรวมสินค้าทางการเกษตร พุ่งขึ้น 18.4% สู่ระดับ 1.48 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (1.25 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบเกือบ 30 ปี เพราะได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของยอดการส่งออกสินแร่เหล็กและถ่านหินไปยังประเทศจีน
-- พรรคแกรนด์ เนชั่นแนล พาร์ตี ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดีลี เมียง บัค ของเกาหลีใต้ต้องพบกับความพ่ายแพ้ในศึกเลือกตั้งท้องถิ่น เพื่อเลือกผู้ว่าราชการจังหวัด และนายกเทศมนตรีที่จัดขึ้นเมื่อวานนี้ โดยพรรคแกรนด์ เนชั่นแนล สามารถคว้าชัยชนะได้เพียง 6 ที่นั่ง ในการเลือกตั้งครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ ขณะที่พรรคเดโมเครติค พาร์ตี ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านได้ที่นั่งไป 7ที่นั่ง
-- ธนาคารกลางอินโดนีเซียมีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 6.5% ในการประชุมวันนี้ โดยธนาคารกลางได้ตรึงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับดังกล่าวมาตั้งแต่เดือนส.ค.ปีที่แล้ว
-- บีพีเตรียมความพร้อมในการตัดท่อน้ำมันที่มีรอยรั่วในอ่าวเม็กซิโกอีกครั้ง หลังจากที่ใบเลื่อย ซึ่งใช้ในการตัดท่อน้ำมันเกิดติดอยู่กับท่อในระหว่างที่มีการดูดถ่ายน้ำมันให้ลอยขึ้นไปบนผิวน้ำ เพื่อให้เรือทำการดักจับต่อไป อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ได้มีการงัดใบเลื่อยออกจากท่อดังกล่าวได้เรียบร้อยแล้ว
-- สำนักงานกำกับดูแลคุณภาพ ตรวจสอบ และกักกันของจีนเปิดเผยว่า บริษัท กวางจี ฮอนด้า ออโตโมบายล์ จะเรียกคืนรถฮอนด้า โอดิสซี ซึ่งเป็นรถมินิแวนจำนวน 32,650 คันในจีน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เนื่องจากพบข้อบกพร่องในท่อน้ำมันไหลกลับ
--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย อรษา สงค์พูล/สุนิตา

ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: แรงขายทำกำไร ฉุดทองคำปิดลบ 4.30 ดอลลาร์

สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ) -- พฤหัสบดีที่ 3 มิถุนายน 2553
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (2 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเข้ามาเทขายทำกำไรหลังจากราคาทองคำทะยานขึ้นติดต่อกันหลายวัน นอกจากนี้ ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงดัชนีการทำสัญญาขายบ้าน ยังส่งผลให้นักลงทุนลดความต้องการสินทรัพย์ที่ปลอดความเสี่ยงอย่างทองคำด้วย

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า สัญญาทองคำ COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนส.ค.ร่วงลง 4.30 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,222.60 ดอลลาร์/บาร์เรล เคลื่อนตัวในช่วง 1,215.00 - 1,228.90 ดอลลาร์
 
ขณะที่สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค.ปิดที่ 18.315 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 23.60 เซนต์
ส่วนสัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค.ปิดที่ 1,550.40 ดอลลาร์/ออนซ์ เพิ่มขึ้น 1.00 ดอลลาร์ และสัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย.ปิดที่ 453.30 ดอลลาร์/ออนซ์ ลดลง 8.85 ดอลลาร์

นักลงทุนลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดความเสี่ยง หลังจากสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 6.0% สู่ระดับ 110.9 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค.ปี 2552 และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 5.0% เนื่องจากผู้ซื้อบ้านใช้ประโยชน์จากนโยบายลดหย่อนภาษีของรัฐบาล

นอกจากนี้ นักลงทุนยังเทขายสัญญาทองคำหลังจากความวิตกกังวลเกี่ยวปัญหาด้านการเงินในยุโรปเริ่มลดน้อยลง โดยมีรายงานว่าธนาคารกลางในหลายประเทศ รวมถึงบราซิล รัสเซีย อินเดีย ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ยังคงเดินหน้าลงทุนในสินทรัพย์ของยุโรป

กองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุน ETF ทองรายใหญ่ที่สุดในโลก เข้าถือครองทองแท่ง 1,268.234 ตันเมื่อวันที่ 1 มิ.ย.เพิ่มขึ้น 0.304 ตันจากวันที่ 27 พ.ค.

--อินโฟเควสท์ แปลและเรียบเรียงโดย รัตนา พงศ์ทวิช

Refresh Your Days with Fruits&Beverage! (สุดสัปดาห์)

          นี่คือ สารพัดเมนูที่จะช่วยกระตุ้นร่างกายคุณให้สดชื่นกระปรี้กระเปร่า ระหว่างวันทำงานอันเมื่อยล้า

 1. แอปเปิ้ล
         การเลือกกินแอปเปิ้ลอย่างน้อยวันละ 1 ลูกในช่วงเบรกแทนการดื่มกาแฟสามารถกระตุ้นให้คุณสดชื่น และเปี่ยมด้วยพลัง นอกจากนี้แอปเปิ้ลยังช่วยทำให้ฟันขาว ในขณะที่กาแฟมีโอกาสทำให้ฟันเหลือง

 2. น้ำผึ้ง
          มีน้ำผึ้งแท้ ๆ จากธรรมชาติติดโต๊ะไว้ เวลาเหนื่อย ๆ จิบเพียง 1 ช้อนชา ก็จะช่วยกระตุ้นพลังงานให้ร่างกายกลับมาคึกคักได้อีก

3. กล้วย
          เป็นผลไม้ที่นักกีฬาชอบพกติดตัว เพราะรับประทานเพียงไม่กี่ลูกก็ช่วยให้ร่างกายมีพลังงานเหลือเฟือ ส่วนหนุ่มสาวออฟฟิศอย่างเรารับประทานกล้วยวันละ 2 ลูกก็เพียงพอแล้ว

 4. ชา
         ดื่มชาสักแก้ว ไม่ว่าจะเป็นชาร้อนหรือชาเย็น จะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสดชื่นไม่แพ้กัน ที่สำคัญชามีสารแอนติออกซิแดนต์สูง ชาวจีนจึงมักใช้ชาเป็นเครื่องดื่มช่วย เยียวยาคนที่กำลังเจ็บไข้ได้ป่วย และชายังช่วยป้องกันโรคหัวใจและโรคมะเร็งได้อีก

5. เครื่องดื่มสมู้ตตี้
          สมู้ตตี้ที่มีส่วนผสมของแอปเปิ้ล สตรอว์เบอร์รี่ หรือบลูเบอร์รี่ ช่วยให้คุณสดชื่น กระปรี้กระเปร่า และพร้อมลุยงานตรงหน้าได้อย่างสดชื่นแบบไม่น่าเชื่อ

 6. อาหารว่างจำพวกสแน็คแท่ง
          ไม่ว่าจะเป็นสแน็คที่มีส่วนผสมของอัลมอนด์ หรือเนยผสมถั่วลิสงบด เพียงรับประทานวันละ 1 แท่งก็จะช่วยให้คุณเปี่ยมพลังงานพร้อมสะสางงาน แถมสแน็คเหล่านี้ยังอุดมด้วยไฟเบอร์ ซึ่งจะช่วยให้คุณลดน้ำหนักได้อีกทางหนึ่ง

7. เมล็ดถั่วและลูกเกดแห้ง
          ใครที่เบื่ออาหารเพราะเมนูซ้ำ ๆ แถมรสชาติก็ไม่ได้ดั่งใจเท่าไร แก้เบื่อด้วยการรับประทานเมล็ดถั่ว และลูกเกดแห้งที่อุดมด้วยโปรตีนและไฟเบอร์ในระหว่างมื้อ ก็จะช่วยเพิ่มพลังงานแทนการกินอาหารมื้อหลักได้

 8. ส้ม
          ไม่เพียงมีวิตามินซีและสารต่อต้านอนุมูลอิสระสูง แต่ยังมีวิตามิน B6 ซึ่งช่วยผลิตฮีโมโกลบินที่จะลำเลียงออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย นอกจากนี้ยังมีสารไทอามินที่จะช่วยเปลี่ยนอาหารให้กลายเป็นพลังงาน พกส้มติดโต๊ะไว้ไม่เสียหลายเช่นกัน