TARADTHONG.COM

โหวตให้กำลังใจเว็บ

ราคาทองคำฟื้นขึ้นหลังจากร่วงลงอย่างรุนแรง, เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นจำกัดการเพิ่มขึ้นของราคา

ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นในวันพฤหัสบดีหลังจากที่ร่วงลงเกือบ 2% ในช่วงก่อนหน้านี้ทำให้เกิดความสนใจซื้อสินทรัพย์ที่ปลอดภัยแม้เงินดอลลาร์สหรัฐที่แข็งค่าขึ้นจะจำกัดการเพิ่มขึ้นของราคา

เราจะสังเกตุเห็นปริมาณที่เพิ่มขึ้นในกองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยน (ETF) เพื่อวางตำแหน่งทองเมื่อวานนี้ที่มีการขายออก นี่เป็นการแสดงให้เห็นว่านักลงทุนกำลังซื้อในขณะที่ราคาลดลง" buy on dip"

ภาพสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนในทองคำซึ่งถือครองโดยกองทุน SPDR Gold Trust ซึ่งเป็นกองทุนในตลาด ETF ทองคำที่ใหญ่ที่สุดในโลกเพิ่มขึ้นเป็น 924.94 ตันในวันพุธเพิ่มขึ้น 1.8% จากวันก่อนหน้านี้

อย่างไรก็ตามความต้องการทองคำยังลดลงเนื่องจาดถูกกดดันจากค่าเงินดอลลาร์ยังคงแข็งค่าขึ้นใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์หลังจากเกิดความไม่แน่นอนทางการเมืองในสหรัฐฯอันเนื่องมาจากการไต่สวนคดีฟ้องร้องต่อประธานาธิบดีโดนัลด์ทรัมป์ผลักดันให้นักลงทุนเข้าสู่ความปลอดภัยในรูปของดอลลาร์

คณะกรรมาธิการข่าวกรองประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐได้ทำการเผยแพร่รายงานของผู้แจ้งเบาะแสรายหนึ่งที่ได้กล่าวโทษประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์กรณีติดต่อรัฐบาลต่างชาติเพื่อให้แทรกแซงการเลือกตั้งในสหรัฐ

รายงานดังกล่าวระบุว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ได้ใช้อำนาจขณะดำรงตำแหน่งเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลต่างชาติเข้าแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในปี 2563

รายงานฉบับนี้ได้ระบุรายละเอียดเกี่ยวกับการที่ประธานาธิบดีทรัมป์ได้โทรศัพท์หานายโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน เมื่อวันที่ 25 ก.ค. ซึ่งประธานาธิบดีทรัมป์ได้กดดันให้นายเซเลนสกีทำการสอบสวนนายโจ ไบเดน อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐ และบุตรชายของเขา ซึ่งมีการทำธุรกิจในยูเครน

โดยทั้งนี้ นายไบเดนเป็นหนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐจากพรรคเดโมแครต และถือเป็นคู่แข่งคนสำคัญของประธานาธิบดีทรัมป์ หากประธานาธิยดีทรัมป์ประสบความสำเร็จในการสกัดนายไบเดนออกจากการแข่งขันชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ ประธานาธิยดีทรัมป์ก็มีแนวโน้มสูงที่จะได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐอีกสมัย

ทางด้านนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ ประกาศการเริ่มกระบวนการไต่สวนอย่างเป็นทางการเมื่อวานนี้ เพื่อถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกจากตำแหน่ง หลังจากมีรายงานว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ได้พูดคุยทางโทรศัพท์กับนายเซเลนสกี เพื่อกดดันให้มีการสอบสวนนายไบเดน ซึ่งเป็นคู่แข่งคนสำคัญของประธานาธิบดีทรัมป์ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสมัยหน้า โดยการกระทำดังกล่าวถูกมองว่าเป็นการเปิดทางให้รัฐบาลต่างชาติเข้ามาแทรกแซงการเลือกตั้งในสหรัฐ

ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวลงอย่างต่อเนื่องในวันนี้ ล่าสุดดิ่งลง 100 จุด โดยถูกกดดันจากปัจจัยการเมืองในสหรัฐ หลังมีการเผยแพร่รายงานของผู้แจ้งเบาะแสกล่าวหาประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เกี่ยวกับการใช้อำนาจในทางมิชอบเพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง
ข่าวความคืบหน้าในการไต่สวนถึงการฟ้องร้องถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์ส่งดัชนีหุ้นสหรัฐและผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯลดลงกลบสัญญาณการค้าที่เป็นบวกจากจีน

ก่อนหน้านี้ในวันนั้นปักกิ่งกล่าวว่าเป็นการสื่อสารอย่างใกล้ชิดกับสหรัฐอเมริกาและกำลังเตรียมที่จะดำเนินการเจรจาทางการค้าในเดือนตุลาคม

ข้อมูลเศรษฐกิจโลกที่อ่อนตัวลงและความเสี่ยงทางการเมืองควรมีแรงกระตุ้นทางการเงินจากธนาคารกลางสหรัฐธนาคารกลางยุโรปและธนาคารประชาชนจีน

การลงทุนทางธุรกิจในสหรัฐฯหดตัวมากขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ในไตรมาสที่สองและการเติบโตของกำไรของ บริษัท เพิ่มขึ้นไม่มากนักทำให้เกิดเงาทางเศรษฐกิจที่กำลังตกอยู่ในภาวะตกต่ำของตลาดการเงินและเกิดความกลัวของภาวะเศรษฐกิจถดถอย

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะมีการขยายตัว 2.5% ในปีนี้ ต่ำกว่าเป้าหมายที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ตั้งไว้ที่ระดับ 3% ทั้งนี้ เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัวติดต่อกันเป็นปีที่ 11 แต่การทำสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนได้ส่งผลกระทบต่อการลงทุน และการผลิตของภาคธุรกิจ ถึงแม้ว่าการบริโภคทะยานขึ้น

"เรายังคงมีความเห็นว่าสัญญาณการเติบโตทั่วโลกยังคงอ่อนตัวและคำถามก็คือคำถามที่ว่าจะเข้าสู่สหรัฐอเมริกาและกระตุ้นให้เฟดลดอัตราดอกเบี้ยเชิงรุกมากกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ในปัจจุบัน"

อีกด้านหนึ่งนายริชาร์ด แคลริดา รองประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) กล่าวในวันนี้ว่า การคาดการณ์เงินเฟ้อในสหรัฐได้สอดคล้องกับเป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2%

"ผมมองว่าการคาดการณ์เงินเฟ้อในสหรัฐได้อยู่ในช่วงที่สอดคล้องกับเป้าหมายในการรักษาเสถียรภาพของราคาของเฟด" นายแคลริดากล่าว
คำกล่าวของนายแคลริดาบ่งชี้ว่า เขายังไม่เห็นความจำเป็นเร่งด่วนในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งใหม่เพื่อกดดันเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับต่ำ

Cr.ค้างคาว เหลา เรื่องทอง